มิติหุ้น-ภายหลังจากประเทศไทยเปิดประเทศอย่างเป็นทางการ รวมถึงประเทศยักษ์ใหญ่อย่างจีนก็เปิดประเทศไปเมื่อวันที่ 8 ม.ค.66 ที่ผ่านมา นับเป็นตัวแปรสำคัญที่จะทำให้นับตั้งแต่ Q2/66 เป็นต้นไป จะเริ่มเห็นกลุ่มนักลงทุนต่างประเทศ ทั้ง จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน ฮ่องกง อินเดีย กลุ่มยุโรป สหรัฐอเมริกา และซาอุดิอาระเบีย เข้ามาเยี่ยมชมเพื่อลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมในประเทศไทยมากขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC)
Q2/66เม็ดเงินต่างชาติเข้านิคมฯ
เนื่องจากนักลงทุนในต่างประเทศจะทยอยย้ายฐานผลิตจากจีนสู่ประเทศไทย โดยส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV ) อิเล็กทรอนิกส์ และเซมิคอนดักเตอร์ ดังนั้นในช่วง Q2/66 เป็นต้นไป จะเป็นช่วงที่เห็นเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศไหลเข้าสู่พื้นที่นิคมฯ EEC เพิ่มมากขึ้น
โดยปัจจัยข้างต้นจะสร้าง Sentiment เชิงบวกต่อราคาหุ้นในกลุ่มนิคมอุตสหกรรมโดยรวม ดังนั้นบรรกาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทย ช่วงต้น Q2/66 จะเริ่มเห็น “แรงเข้ามาเก็งกำไร หรือ ซื้อสะสม” หุ้นนิคมฯอีกครั้ง โดยเฉพาะบริษัทที่มีพื้นที่และได้ประโยชน์ในโซน EEC อาทิ ROJNA , AMATA, WHA , WHAUP , JCK, PIN
ส่องหุ้นเด่นน่าสนใจ
สำหรับการลงทุนในหุ้นหลุ่มนิคมฯ “บล.กรุงศรี” เลือก ROJNA เป็นหุ้นเด่น เพราะในปี 66 คาดกำไรจะเติบโตก้าวกระโดด 83% จากการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งได้ปรับเพิ่มยอดขายที่ดินปี 66-67 เป็นปีละ 700 ไร่ จากเดิม 525 ไร่ /600 ไร่ เนื่องจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งจากกลุ่ม EV, แบตเตอรี่ EV และอิเล็กทรอนิกส์ และปรับลดส่วนแบ่งผลขาดทุนจาก บ.รัชคารโฮลดิ้ง (ปีละ 100 ลบ.) เนื่องจาก ROJNA จะขายหุ้น 50% ให้กับ Gulf Holding (Thailand) Co.,Ltd. ในเดือนมี.ค.นี้ แนะนำ “ซื้อ” ปรับเพิ่มราคาเป้าหมาย 7.40 บาท จากเดิม 7.00 บาท
ส่วน AMATA ปี 66 ยอดขายที่ดินเติบโตก้าวกระโดด 1,400 ไร่ จากการย้ายฐานการผลิตจากจีน และอุปทานของ AMATA เพิ่มขึ้นทั้งในไทย (นิคมใหม่ของ JV ไทย-จีน พื้นที่ขาย 1,500 ไร่ และ 500-600 ไร่เฟสใหม่ที่ชลบุรี) และเวียดนาม (Halong P2 และ Long Thanh P1) แนะนำ “ซื้อ” เป้าหมาย 27 บาท
ขณะที่ “บล.ยูโอบีเคย์เฮียน” เชียร์ WHA เพราะปี 66 จะรายงานกำไรสุทธิเติบโตโดดเด่น จากยอดขายที่ดินและยอดโอนที่ดินที่คาดจะยังคงแข็งแกร่ง แนะนำ “ซื้อ” เป้าหมาย 4.80 บาท
โดย “นักวิเคราะห์หลักทรัพย์แห่งหนึ่ง” แนะนำให้จับตา JCK คาดปี 66 ธุรกิจได้ผ่านจุดต่ำสุดและเช้าสู่ “การเทิร์นอะราวด์” เนื่องจากบริษัทจะรุกเดินหน้าทุกธุรกิจทั้ง ธุรกิจนิคมฯ,ธุรกิจโรงงานสำเร็จรูปและคลังสินค้าให้เช่า และ ธุรกิจอสังหาฯ
โดยเฉพาะ “ธุรกิจนิคมฯ”ปัจจุบันที่ดินในนิคมฯ TFD 2 ที่เหลืออยู่ 500ไร่ ล่าสุดมีลูกค้ารายใหญ่เข้ามาเจรจาแล้วและยังมีแผนเปิดในนิคมฯ TFD 3 ประมาณกว่า 2,000 ไร่อีกด้วย
WHAเร่งเครื่องเต็มสูบ
บิ๊ก “จรีพร จารุกรสกุล” ประธานคณะกรรมการบริษัท WHA มั่นใจจากความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อบริษัท ทำให้มั่นใจว่า ปี 66 ยอดขายที่ดินจะเพิ่มขึ้น โดยสิ้นปี 65 มียอดขายที่ดินรวม 1,899 ไร่ แบ่งเป็นในประเทศไทย 1,793 ไร่ และเวียดนาม 106 ไร่ มียอด MOU ที่รอเซ็นสัญญาซื้อขายที่ดิน รวม 899 ไร่ (แบ่งเป็นในประเทศ 469 ไร่ และเวียดนาม 430 ไร่) และมียอด Backlog รอโอนรวม 468 ไร่
ปัจจุบัน WHA มีนิคมฯที่อยู่ระหว่างการดำเนินการในประเทศไทย 11 แห่ง โดยมีนิคมฯดับบลิวเอชเอ ระยอง 36 จำนวน 1,280 ไร่ ซึ่งดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 65 และยังมีนิคมฯ อีก 2 แห่งอยู่ระหว่างการดำเนินการพัฒนาก่อสร้าง ได้แก่ นิคมฯดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล เอสเตท ระยอง เฟส 1 จำนวน 1,100 ไร่ และ สระบุรี 2 จำนวน 2,400 ไร่ ที่คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในปี 69 อีกทั้งยังมีแผนที่จะขยายโครงการนิคมฯเพิ่มเติมอีก 2 โครงการ ได้แก่ โครงการขยายนิคมฯดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 4 จำนวน 570 ไร่ และการขยายโครงการนิคมฯดับบลิวเอชเอ ระยอง 36 จำนวน 400 ไร่ มั่นใจปี 66 ภาพรวมธุรกิจจะเติบโตโดดเด่นแน่นอน
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://demo.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon