มิติหุ้น – บล.เอเซีย พลัส จำกัด
ขยายกำลังการผลิต…พร้อมโตระยะยาว
กำไรสุทธิงวด 4Q65 เท่ากับ 368 ล้านบาท (ต่ำกว่าคาด) ลดลงถึง 30% qoq และ 39% yoy ผลกระทบจากราคาขายยางพาราเฉลี่ยงวด 4Q65 ปรับลดลง 12% qoq และ 8% yoy มาที่ 51.5 บาท/กก. กดดัน Gross margin งวด 4Q65 อ่อนตัวลง ทั้งนี้ NER ได้ประกาศเตรียมก่อสร้างโรงงานยางแท่งแห่งที่ 3 กำลังการผลิต 1.7 แสนตัน/ปี เพิ่มกำลังการผลิตของ NER ได้ถึง 32% จากปัจจุบัน คาดเริ่มดำเนินการผลิตได้ใน 1Q67 โดยฝ่ายวิจัยยังไม่ได้รวมไว้ในประมาณการ
คาดกำไรสุทธิปี 2566 จะเพิ่มขึ้น 19% yoy จากแนวโน้มปริมาณขายยางพาราเพิ่มขึ้น 14% yoy และการประหยัดต่อขนาด โดยคาดกำไรสุทธิงวด 1Q66 จะเติบโตจากงวด 4Q65 จากแนวโน้ม gross margin งวด 1Q66 ฟื้นตัว ตามทิศทางราคายางพาราโลก NER ประกาศจ่ายปันผลสำหรับงวด 2H65 เท่ากับ 0.31 บาท คิดเป็น Div yield 5.3% ขึ้น XD วันที่ 20 เม.ย. 66 แนะนำซื้อ
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง
คงคำแนะนำ BUY 8.70 บ
- ไตรมาส 4 เชื่อว่าเป็น bottom ของราคายาง และ GPM โดยกำไรจะไต่ไป peak ไตรมาส 3 ตั้งแต่ มค. 66 order จีนมาหนาแน่นทั้งเปิดเมืองทั้งรถ EV แม้volume 1Q66 จะย่อจาก 4Q65 แต่ GPM ที่ฟื้นออกมา มองว่ากำไรไรจะเริ่มออกตัวฟื้น QoQ แล้วเดินหน้าต่อปีนี้
- บริษัทเตรียมขยายกำไรการผลิตใหม่ +33% อีก 1.7 แสนตัน ใช้เงิน700 ลบ. เสร็จ 1Q67 ใช้กระแสเงินสดภายใน และเงินกู้ประเด็นนี้ถือเป็นเรื่องใหม่เหนือความคาดหมาย
- การเพิ่มทุนแบบ PP mandate 8.7% ยังขอมติผถห. ค้างไว้ก่อนเผื่อไว้สำหรับเตรียมเงินทุน, ลดภาระดอกเบี้ย, ขยาย w/c เพื่อลดระดับ D/E ratio
***NER ประกาศจ่ายปันผลงวด 2H65 ที่ 0.31 บ. คิดเป็น Div. yield 5.2%,XD 20 เม.ย. 66
บล.พาย
“4Q22 ไม่ดีเพราะราคาขาย”
เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” และประเมินมูลค่าพื้นฐานที่ 8.50 บาท โดยยังไม่ได้รวมหุ้นเพิ่มทุนที่เตรียมขายให้กับกองทุนต่างประเทศด้วย ถ้ารวมมูลค่าพื้นฐานจะเป็น 7.10 บาท จากเดิม 8.90 บาท (8XPER’23E) ระยะสั้นแนะนำให้ซื้อเพื่อรับเงินปันผลที่มีผลตอบแทนกว่า 5% แม้ว่าผลประกอบการงวด 4Q22 จะออกมาต่ำ0กว่าที่คาดไว้แต่ในระยะยาวบริษัทได้รับคำสั่งซื้อเข้ามามากขึ้นได้ในอนาคตทำให้มีการขยายกำลังการผลิตใหม่โดยประกาศก่อสร้างโรงงานแห่งที่3 ซึ่งจะทำให้มีกำลังการผลิตเพิ่มอีกถึง 33%
บล.ยูโอบี เคย์ เฮียน (ประเทศไทย)
จุดที่ดีในการเข้าซื้อมาถึงแล้ว
กำไร 4Q22 ลดลง 39.6% yoy และ 30.4% qoq ต่ำกว่าที่คาด โดยหลักกดดันจาก ASPs และ GPM ที่ลดลง ตามแนวโน้มราคายางช่วง 3Q22 ฝ่ายวิจัยมีการปรับประมาณการปี 2023-24 ลง 9% และ 7% ตามลาดำดับ โดยได้กำไรปี 2023 ยังเติบโต 14% yoy หนุนจากปริมาณขายที่ขยายตัว yoy ทั้งนี้ มีแนวโน้มกำไรระยะสั้น 1Q23 อาจยังไม่โดดเด่น แต่เชื่อว่าจะเริ่มเห็นการฟื้นตัวดีขึ้นในช่วง 2Q23 ตามราคายางที่เริ่มฟื้นตัวนับจากช่วงปลายปี2022 ขณะที่ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 7.6 บาท ยังมี Upside + yield น่าลงสนใจ คงคำแนะนำ ซื้อ
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย)
คงคำแนะนำ ซื้อ 9.70 บาท
เราคาดกำไรปกติใน 1Q66 กลับมาที่ระดับเหนือ 400 ลบ. จากการฟื้นตัวของราคาขายเฉลี่ยราว 10% ขณะที่ปริมาณขายคาดทรงตัวถึงเพิ่มขึ้นเล็กน้อย QoQ ทำให้กำไรฟื้นตัวระดับ 20%+/- QoQ และทรงตัว YoY บริษัทตั้งเป้าปริมาณขายที่ 5 แสนตันในปี 2566 ยังสูงกว่าประมาณการของเราที่ 4.8 แสนตัน และตั้งเป้ารายได้ที่ 3.0 หมื่นลบ. สูงกว่าประมาณการของเราที่ 2.85 หมื่นลบ. จึงยังคงประมาณการกำไรปี 2566 ที่ 2,200 ลบ. (+19.2% YoY) คงราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 ที่ 9.70 บาท คงคำแนะนำ ซื้อ ด้านราคาปัจจุบันซื้อขายที่ PER2566เพียง 4.90เท่า และคาดเงินปันผลสำหรับปี 2566 ที่ 0.48 บาท ให้ผลตอบแทน 8.1
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://demo.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon