บริษัทประกันรับอานิสงส์รัฐเก็บค่าต๋งนักท่องเที่ยว คาดเงินสะพัดเข้า 1.25 พันลบ.

319

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบการจัดเก็บค่าธรรมเนียมการท่องเที่ยวภายในประเทศของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ โดยจะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเดินทางผ่านช่องทางอากาศ 300 บาท/คน/ครั้ง และช่องทางบก ช่องทางน้ำ 150 บาท/คน/ครั้ง โดยจะนำเงินบางส่วนนำมาซื้อประกันภัยให้นักท่องเที่ยว 50 บาท เมื่อนักท่องเที่ยวได้รับบาดเจ็บระหว่างการท่องเที่ยว จะมีวงเงินค่ารักษาพยาบาลไม่เกิน 500,000 บาท และหากเสียชีวิตจะได้เงินชดเชย 1,000,000 บาท มีระยะเวลาคุ้มครอง 45 วัน

หากลองประเมินตัวเลขนักท่องเที่ยวจาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่คาดมีนักท่องเที่ยวในปี 66 ประมาณ 25 ล้านคน ถ้ามีการเริ่มเก็บภาษีค่าธรรมเนียม คาดว่าจะมีเม็ดเงินไหลเข้ากลุ่มประกันอยู่ราว 1.25 พันลบ.

 

นายจีรพันธ์ อัศวะธนกุล ประธานสภาธุรกิจประกันภัยไทย กล่าวว่า โดยปกติในโครงการของภาครัฐส่วนใหญ่จะกระจายไปตามบริษัทประกันต่างๆ เพื่อรวมมือกันตอบสนองนโยบายของภาครัฐ ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างหารือ ทั้งราคาเบี้ยประกัน ความคลุมครองที่เหมาะสม ขั้นตอนในการให้บริการ ทั้งโรงพยาบาลรัฐและเอกชน ซึ่งยังต้องรอความชัดเจน มองว่าไม่ได้ส่งผลต่อกลุ่มบริษัทประกันมาก แต่เป็นเรื่องของภาพลักษณ์ของประเทศมากกว่า

 

ทางด้านนางสาวระวีนุช ปิยะเกรียงไกร Senior Vice President ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ สายงานวิจัย บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนว่าบริษัทประกันภัยใดที่จะเข้าร่วมบ้างและเราต้องติดตามว่าค่าประกันและรายละเอียดกรมธรรม์นั้นเป็นอย่างไร

ซึ่งเราเชื่อว่าประกันภัยดังกล่าวน่าจะครอบคลุมการเข้ารักษาที่โรงพยาบาลเอกชนเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งมองว่า BDMS ให้ราคาเป้าหมาย 34 บาท น่าจะได้ประโยชน์เพราะมีโรงพยาบาลกระจายตามแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ เช่น พัทยา ภูเก็ต สมุย เชียงใหม่ คิดเป็นประมาณ 15-20% ของรายได้

มองว่าจำนวนค่าธรรมเนียม 300 บาท/คน/ครั้ง ในกรณีเดินทางทางอากาศ จะคิดเป็นประมาณ 1% ของค่าใช้จ่ายต่อคนต่อทริป ราว 5 หมื่นบาท ทำให้เรามองว่าจะไม่มีผลกระทบต่อความต้องการเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย ประเด็นบวกของกลุ่มท่องเที่ยวคือการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวไทย หุ้นเด่นของเราในกลุ่มท่องเที่ยวคือ AOT ราคาเป้าหมาย 82 บาท/หุ้น ERW ราคาเป้าหมาย 5 บาท/หุ้น และ MINT ราคาเป้าหมาย 38 บาท/หุ้น

 

ในขณะที่ นายเอนกพงศ์ พุทธาภิบาล ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า กลุ่มประกันภัยน่าจะได้รับประโยชน์ โดยเกี่ยวกับประกันอุบัติเหตุ ประกันเดินทาง อาทิ TIPH BKI MTI FWD AIA ซึ่งยังไม่แน่ชัดว่าทางรัฐจะใช้ประกันตัวไหนจ่าย มองว่าจะช่วยสร้างสีสันให้กลุ่มประกันเล็กน้อยจากการเม็ดเงินที่ไหลเข้า แต่คาดว่าไม่มากนัก

 

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://demo.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon