มิติหุ้น – นายชลัช ชินธรรมมิตร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.น้ำตาลขอนแก่น หรือKSL เปิดเผยว่า ในQ1/66 บริษัทจะได้รับอานิสงส์จากการปรับขึ้นของราคาน้ำตาล ที่จะส่งผลต่อผลประกอบการมีโอกาสน้อยมาก ซึ่งบริษัทมองว่าปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลต่อผลประกอบการใน Q1/66 (พ.ย.65-ม.ค.66) จะเป็นส่วนของปริมาณการขาย และปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้น จะส่งผลให้ยอดขายของQ1/66 จะเติบโตขึ้นกว่า Q1/65(พ.ย.64-ม.ค.65)
สำหรับในปี 66 (พ.ย.65-ต.ค.66) บริษัทตั้งเป้ายอดขายน้ำตาลอยู่ที่ 2.5 ล้านตัน หรือมากกว่า 2.5 ล้านตัน หลังจากที่นักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศเพิ่มมากขึ้น จะส่งผลให้การจับจ่ายใช้สอย และการบริโภคในประเทศเพิ่มขึ้น รวมทั้งบริษัทตั้งเป้ามีปริมาณอ้อยเพิ่มเป็น 7.5 ล้านตัน จากปัจจุบันบริษัทมีปริมาณอ้อยอยู่ที่ 6.5 ล้านตัน ซึ่งส่งผลให้บริษัทจะสามารถผลิตน้ำตาลเพิ่มขึ้น 15-20%
ส่วนด้านการจำหน่ายคาร์บอนเครดิตจากพลังงานสะอาด ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างกการยื่นเอกสาร เนื่องจากเอกสารที่ต้องยื่น มีจำนวนมาก อีกทั้งบริษัทมั่นใจว่าพลังงาน หรือกระบวนการผลิตไฟฟ้าของบริษัทเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสามารถลดคาร์บอนฯ โดยหลักการผลิตไฟฟ้าของบริษัทมาจาก กากอ้อยที่เป็นผลพลอยได้จากการผลิตน้ำตาล ซึ่งบริษัทคาดว่าจะจำหน่ายคาร์บอนเครดิต ประมาณช่วงครึ่งหลังปี 66 ที่จะเริ่มทยอยออกจำหน่ายได้
ทั้งนี้ปัจจัยอื่นๆ ที่จะส่งผลกระทบต่อบริษัท บริษัทมองว่าจะเป็นในส่วนของกฎหมายใหม่เกี่ยวกับธุรกิจน้ำตาล โดยจะปรับปรุงกฎระเบียบใหม่ ซึ่งปัจจุบันยังคงอยู่ระหว่างการพูดคุยของคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาล ซึ่งบริษัทมองว่ายังคงไม่เห็นถึงผลกระทบต่อบริษัทในระยะเวลา 1-2 ปี นี้
ปัจจุบันบริษัทมีโรงงานทั้งในประเทศและต่างประเทศประมาณ 7 แห่ง ได้แก่ โรงงานน้ำตาล กาญจนบุรี 2 แห่ง, ชลบุรี 1 แห่ง ขอนแก่น 1 แห่ง เลย 1 แห่ง ส่วนต่างประเทศมีอยู่ ลาว 1 แห่ง และกัมพูชา โดยโรงงานที่กัมพูชาได้หยุดดำเนินงานมา 2-3 ปี เนื่องจากอยู่ระหว่างหานักลงทุนรายใหม่ที่สนใจพื้นที่เพาะปลูก และเข้าไปทำธุรกิจจะเป็นน้ำตาลหรืออย่างอื่นก็ได้
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://demo.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon