MTW เปิดแผนธุรกิจหลังนำหุ้นเข้าตลาด mai ทุ่มงบลงทุน 210 ล้านบาท ลุยรถจักรยานยนต์ EV เต็มสูบ

101

มิติหุ้น – MTW เปิดแผนธุรกิจ หลังนำหุ้นเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เรียบร้อยแล้ว ทุ่มงบ 210 ล้านบาท ลุยธุรกิจรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าภายใต้การดำเนินงานของบริษัทย่อย “เดโก้ กรีน เอนเนอร์จี” เจ้าของแบรนด์ DECO ขานรับนโยบายรัฐ ส่วนลด 18,000 บาท จดทะเบียนได้ตามกฎหมาย ด้านหัวเรือใหญ่ “กฤตเมธ ตั้งพิชญโพธิวัฒน์” ตั้งเป้ารายได้ปี 66 เติบโต 30-40%

นายกฤตเมธ ตั้งพิชญโพธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมคทูวิน โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ MTW ผู้ผลิตและจำหน่ายเสื้อผ้าสำเร็จรูป ผลิตและจำหน่ายรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ภายใต้เครื่องหมายการค้า DECO เปิดเผยว่าแผนการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ หลังเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เรียบร้อยแล้ว จะนำเงินที่ได้รับจากการระดมทุนดังกล่าวไปใช้สำหรับลงทุนในกิจการรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า โดยการเพิ่มทุนในบริษัท เดโก้ กรีน เอนเนอร์จี จำกัด จำนวน 210 ล้านบาท ซึ่งบริษัทดังกล่าวมีวัตถุประสงค์ในการเพิ่มทุนเป็น 340 ล้านบาทและชำระจำนวนเต็มเรียบร้อยแล้ว เพื่อนำไปใช้ 1.ชำระหนี้สถาบันการเงิน 72 ล้านบาท 2.ชำระค่าก่อสร้างอาคารโรงงานและสำนักงาน 53 ล้านบาท 3.ซื้อเครื่องจักรและอุปกรณ์ 60 ล้านบาท 4.ส่วนที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ

ทั้งนี้ในเดือนกันยายน ที่ผ่านมา บริษัทเดโก้ กรีน เอนเนอร์จี จำกัด ซื้อที่ดินพร้อมอาคารจากบริษัทบริหารสินทรัพย์ จำนวน 90.69 ล้านบาท โดยใช้แหล่งเงินกู้ยืมระยะยาวจากสถาบันการเงิน จำนวน 72.00 ล้านบาท และส่วนที่เหลือเป็นเงินกู้ยืมจาก MTW และในช่วงไตรมาส 1/2566 บริษัทดังกล่าวมีแผนที่จะก่อสร้างอาคารโรงงานและสำนักงานในที่ดินดังกล่าว จำนวน 53 ล้านบาทและสั่งซื้อเครื่องจักรอุปกรณ์ จำนวน 60 ล้านบาท

“เดโก้ กรีนเอ็นเนอร์จี เป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่าย มอไซค์ไฟฟ้ารายใหญ่และได้มาตรฐานอุตสาหกรรมที่สำคัญถือเป็นผู้ประกอบอุตสาหกรรมรถจักรยานยนต์ที่เข้าร่วมมาตรการฯ โดยจะได้สิทธิประโยชน์จากภาษีสรรพสามิตอัตราภาษีตามมูลค่าร้อยละ 1 และเงินอุดหนุนจำนวน 18,000 บาทต่อคันและวันนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่า    เทรนด์ของยานยนต์ไฟฟ้ากำลังได้รับความสนใจและสอดคล้องกับเป้าหมายการทำธุรกิจของเราที่นอกจากจะได้สร้างงานสร้างอาชีพ ยังเป็นส่วนหนึ่งของการลดมลภาวะโดยเฉพาะค่าฝุ่น PM 2.5 และนี้คือแนวทางของ MTW ที่พร้อมจะก้าวไปพร้อมกันสู่การสร้างถนนสีเขียวและขานรับเป้าหมายของประเทศเพื่อมุ่งสู่การสร้างความเป็นกลางทางคาร์บอนในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน” นายกฤตเมธ กล่าว

นอกจากนี้ในปี 2566 บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้เติบโต 30-40% จากปี 2565 ที่คาดว่าจะทำได้มากกว่าปี 2564 ที่มีรายได้อยู่ที่  214.17 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนรายได้มาจากธุรกิจผลิตและจำหน่ายเสื้อผ้าสำเร็จรูปและธุรกิจผลิตและจำหน่ายจักรยานยนต์ไฟฟ้าและตลอดระยะเวลากว่า 20 ปีที่ผ่านมา บริษัทฯ มียอดคำสั่งซื้อจากลูกค้าที่หลากหลายและลูกค้าส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการขายส่งเสื้อผ้าที่มีฐานลูกค้าในมือจำนวนมาก ผู้ประกอบการดังกล่าวสามารถช่วยกระจายสินค้าไปยังลูกค้าปลายทางให้แก่บริษัท จึงมีนโยบายรักษาความสัมพันธ์ที่ดีและสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้ากลุ่มดังกล่าว

“หลังจากที่เข้าระดมทุนในตลาด mai จะขยายช่องทางการจำหน่ายสินค้าผ่านออนไลน์ตามพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป จะทำให้มีช่องทางการจำหน่ายสินค้าที่หลากหลายจากเดิมที่มีช่องทางการจำหน่ายหลักผ่านโรงงานและหน้าร้าน เป็นสาขาของบริษัท จำนวน 3 แห่ง ที่ตั้งเป็นศูนย์กลางของผู้ประกอบการค้าปลีกบริเวณตลาดโบ๊เบ๊และประตูน้ำเป็นหลัก ศูนย์รวมของกลุ่มผู้ประกอบการขายส่งเสื้อผ้าสำเร็จรูปทั่วภูมิภาคของไทยและยังเป็นทำเลที่ผู้ประกอบการเสื้อผ้าสำเร็จรูปจากต่างประเทศนิยมแวะเวียนมาซื้อสินค้าและส่งออกสินค้าไปขายยังประเทศของลูกค้าเหล่านั้น บริษัทยังมีช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านโรงงาน ลูกค้าสั่งซื้อผ่านทางโทรศัพท์ E-Mail หรือ Line และยังมีการนำเสนอข้อมูลผลิตภัณฑ์ผ่านทางหน้าเว็บไซด์ www.maketowin.com ที่ปรับปรุงข้อมูลผลิตภัณฑ์ให้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอและจะออกแบบเสื้อผ้าให้มีความทันสมัยมากขึ้นด้วย” นายกฤตเมธ กล่าว

สำหรับโรงงานผลิตมีจำนวน 1 แห่ง ตั้งอยู่ที่จ.นครปฐม เนื้อที่ประมาณ 6 ไร่ พื้นที่ใช้สอยประมาณ 12,000 ตารางเมตร มีเครื่องจักรที่ใช้ในการผลิตทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่รวมกันกว่า 63 เครื่อง แบ่งเป็นเครื่องจักรเย็บจำนวนกว่า 27 เครื่อง และเครื่องจักรอื่นๆ จำนวนกว่า 36 เครื่อง นอกจากเครื่องจักรเหล่านี้แล้ว ยังมีอุปกรณ์เสริมเครื่องจักรเย็บ สามารถช่วยปรับเครื่องจักรให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับรูปแบบของผลิตภัณฑ์ได้มากขึ้น ปัจจุบันมีกำลังการผลิตทั้งสิ้นประมาณ 1.8 ล้านตัวต่อปี ในส่วนของธุรกิจผลิตและจำหน่ายจักรยานยนต์ไฟฟ้า ดำเนินการโดย บริษัท เดโก้ กรีน เอเนอร์จี จำกัด  บริษัทย่อยเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายภายใต้เครื่องหมายการค้า DECO โดยจำแนกตามรูปแบบการใช้งานและสมรรถนะของเครื่องยนต์เป็น 4 ประเภทหลัก ได้แก่ 1.แบบจักรยานไฟฟ้า (Electric Bicycles) 2.รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าแบบครอบครัว (Classic Electric Motorcycles) จำหน่าย 2 รุ่น ได้แก่ รุ่นเครื่องยนต์น้อยกว่า 1,000 w และรุ่นเครื่องยนต์มากกว่า 1,000 w 3.รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าแบบสปอร์ต (Sport Electric Motorcycles) และ 4.รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าเพื่อการพาณิชย์ (Commercial Electric Motorcycles) ใช้ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ เข้ามาเป็นระบบขับเคลื่อนหลังเครื่องยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้าตั้งแต่ 3,000 W

เดโก้ มีช่องทางการจำหน่ายและกระจายสินค้าผ่านตัวแทนทั่วภูมิภาคต่างๆทั่วประเทศที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ จำนวนทั้งสิ้น 91 ราย เช่น เชียงใหม่ ชลบุรี ภูเก็ต นครราชสีมาและขอนแก่น ในขณะที่การจำหน่ายโดยตรงไปยังลูกค้า จะเป็นลักษณะการจำหน่ายแก่ลูกค้าที่มีปริมาณการซื้อจำนวนมาก เช่น การจำหน่ายไปยังลูกค้าหน่วยงานภาครัฐและการผลิตตามคำสั่งซื้อ ได้รับความนิยมเป็นจำนวนมาก ด้วยประโยชน์ของรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าเมื่อเทียบกับรถจักรยานยนต์ทั่วไป สามารถจดทะเบียนขับขี่มอเตอร์ไซค์ตามท้องถนนได้ถูกต้องตามกฎหมายและได้รับมาตรการสนับสนุนส่วนลด 18,000 บาทจากภาครัฐ สามารถผ่อนสบายกับสถาบันการเงินชั้นนำ ซึ่งถือเป็นจุดเด่นสำหรับการซื้อรถจักรยานยนต์ไฟฟ้ากับ DECO

 

@mitihoonwealth
https://lin.ee/cXAf0Dp