BCAP แนะซื้อ 2 ซีรีย์กองทุน “SSF-RMF “ กระจายเสี่ยงช่วงตลาดผันผวนสูง-รับสิทธิลดหย่อนภาษีปี65

58

มิติหุ้น – บลจ.บีแคปประเมินการลงทุนในช่วงที่เหลือของปีนี้ต่อเนื่องปีหน้า ยังมีความผันผวนสูง แม้เงินเฟ้อจจะผ่านจุดสูงสุด เหตุธนาคารกลางยังคงนโยบายการเงินตึงตัว กดดันเศรษฐกิจ และกำไรบริษัทจดทะเบียน ส่งผลต่อภาวะตลาด แนะลงทุนแบบการกระจายความเสี่ยงในหลากหลายสินทรัพย์ พร้อมชูลงทุน 2 ซีรี่ย์กองทุน”SSF-RMF” เพิ่มโอกาสผลตอบแทน และยังได้รับสิทธิลดหย่อนภาษีปี 2565

นางเมธ์วดี ประเสริฐสินธนา กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) บางกอกแคปปิตอล จำกัด หรือ BCAP เปิดเผยว่า เดือนธันวาคม นับเป็นช่วงเทศกาลวางแผนภาษี โดยเฉพาะช่วงนี้ตลาดหุ้นและสินทรัพย์หลายประเภทมีความผันผวน และปรับตัวลดลงมาค่อนข้างมาก เนื่องจากได้รับผลกระทบจากผลของเงินเฟ้อและการขึ้นดอกเบี้ยที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นจังหวะที่ดีในการเข้าลงทุน กองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) คุณภาพดีที่มีผลการดำเนินงานดีสม่ำเสมอ เพื่อนำไปลดหย่อนภาษีปี 2565 ซึ่งเหลือเวลาลงทุนอีกไม่ถึงเดือน

ทั้งนี้ บลจ.บีแคป ขอแนะนำ ซีรี่ย์กองทุนเปิด บีแคป โกลบอล เวลท์ เพื่อการออม (BCAP -GW SSF) ทั้ง 5 กองและ ซีรี่ย์กองทุนเปิดบีแคป โกลบอล ทาร์เก็ต เดท เพื่อการเลี้ยงชีพ (BCAP Global Target Date RMF) ซึ่งทั้ง 2 ซีรี่ย์กองทุนนี้ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์นักลงทุนในด้านการลงทุนและการวางแผนรับสิทธิประโยชน์ทางด้านการลดหย่อนภาษี

โดยกองทุนเปิดบีแคป โกลบอล ทาร์เก็ต เดท เพื่อการเลี้ยงชีพ (BCAP Global Target Date RMF)  ออกแบบมาให้เหมาะสมกับแผนการเกษียณของแต่ละช่วงวัยและได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีตามเงื่อนไขของกรมสรรพากร  ลงทุนขั้นต่ำเพียง 500 บาท ผ่านสาขาธนาคารกรุงเทพและบริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง

ส่วนกองทุนบีแคป โกลบอล เวลท์ เพื่อการออม (BCAP -GW SSF) เป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในสินทรัพย์ทั้งในและต่างประเทศ และลงทุนผ่านกองทุนรวมและ ETF ทั่วโลก ทำให้มีความคล่องตัวในการบริหารกองทุนสูง

กองทุนบีแคป โกลบอล เวลท์ เพื่อการออม (BCAP -GW SSF) มีนโยบายการลงทุนครอบคลุมทรัพย์สินทั่วโลก กระจายการลงทุนในหลากหลายทรัพย์สินทั้งในและต่างประเทศ ทั้งหุ้น ตราสารหนี้ ทรัพย์สินทางเลือก เช่น กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ REITs กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงทองคำ โดยกองทุนจะลงทุนผ่านกองทุนรวมและกองทุน ETF ทำให้มีความคล่องตัวในการบริหารกองทุนสูงและไม่มีนโยบายจ่ายเงินปันผล เพื่อสะสมผลตอบแทนที่ได้ลงทุนต่อเนื่อง ส่วนเงินลงทุนในต่างประเทศกองทุนจะป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน

สำหรับจุดเด่นของกองทุน BCAP Target date series ซึ่งเป็นกองทุน RMF ที่ปรับสัดส่วนการลงทุนให้สอดคล้องตามช่วงอายุ โดยผู้ลงทุนสามารถเลือกลงทุนตามปี ที่จะเกษียณอายุผ่าน 3 ทางเลือกกองทุน ได้แก่ BCAP2030RMF สำหรับผู้ที่วางแผนเกษียณช่วงปี 2568-2578, BCAP2040RMF สำหรับผู้ที่วางแผนเกษียณช่วงปี 2579-2588 และ BCAP2050RMF สำหรับผู้ที่วางแผนเกษียณช่วงปี 2589-2598  ซึ่งแต่ละกองทุนจะมีทีมผู้จัดการกองทุนที่มีความเชี่ยวชาญในแต่ละสินทรัพย์คอยดูแลอย่างใกล้ชิดในการปรับพอร์ตการลงทุนและติดตามสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลง เพื่อปรับกลยุทธ์การลงทุนให้เหมาะสม โดยไม่ต้องกังวลกับตลาดที่มีความผันผวนค่อนข้างสูง

“กองทุนเปิดบีแคป โกลบอล ทาร์เก็ต เดท เพื่อการเลี้ยงชีพ มีนโยบายลงทุนเหมือนกับกองทุนเปิดบีแคป โกลบอล เวลท์ (BCAP Global Wealth : BCAP-GW) ซึ่งมีนโยบายการลงทุนครอบคลุมทรัพย์สินทั่วโลกเช่นเดียวกัน แต่ต่างกันที่แนวทางการบริหารทรัพย์สิน ซึ่งกองทุน BCAP Global Wealth เป็นเหมือนพอร์ตการลงทุน ที่ลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงตามระดับความเสี่ยงที่นักลงทุนรับได้ ขณะที่กอง RMF นี้กำหนดสัดส่วนของแต่ละทรัพย์สินให้เหมาะสมกับช่วงอายุของผู้ลงทุนหรือเป้าหมายของผู้ลงทุน “นางเมธ์วดี กล่าว

นางเมธ์วดีกล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีแนวโน้มเป็นสังคมผู้สูงอายุมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นการวางแผนเกษียณจึงเป็นสิ่งสำคัญ ในขณะที่คนแต่ละช่วงอายุมีสัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสมและความเสี่ยงที่รับได้แตกต่างกัน การมีกองทุนที่จัดพอร์ตการลงทุนให้เหมาะกับแต่ละช่วงอายุและสอดคล้องกับแผนการเกษียณจึงเป็นตัวช่วยที่ตอบโจทย์ผู้ลงทุน สำหรับผู้ที่อายุยังน้อย มีเวลาในการลงทุนมากควรเน้นลงทุนในทรัพย์สินเสี่ยง เพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนในระยะยาว ส่วนผู้ที่ใกล้เกษียณอายุต้องเพิ่มการลงทุนในทรัพย์สินมั่นคง เพื่อเน้นรักษาเงินต้น ซึ่งรูปแบบการลงทุนดังกล่าวถูกออกแบบผ่านกองทุนเปิดบีแคป โกลบอล ทาร์เก็ต เดท เพื่อการเลี้ยงชีพ ตอบโจทย์ทุกวัย

สำหรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีเมื่อปฏิบัติตามเงื่อนไขของกรมสรรพากร โดยกองทุน RMF สามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 30% ของเงินได้พึงประเมินและวงเงินลงทุนได้ไม่เกิน 500,000 บาท โดยต้องนับรวมกองทุนเพื่อการออม (SSF) วงเงินปกติ และการออมเพื่อการเกษียณอายุอื่นๆ โดยต้องลงทุนอย่างน้อย 5 ปี นับตั้งแต่ซื้อครั้งแรก (นับแบบวันชนวัน) และขายคืนได้เมื่อถือจนอายุ 55 ปีบริบูรณ์

ในส่วนของกองทุน SSF สามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 30% ของเงินได้พึงประเมินและวงเงินลงทุนได้ไม่เกิน 200,000 บาท และต้องถือครองอย่างน้อย 10 ปี (นับแบบวันชนวัน)

กองทุนประหยัดภาษี BCAP Global Wealth SSF ที่นักลงทุนเลือกลงทุนในความเสี่ยงที่เหมาะสม โดยมีรูปแบบพอร์ตการลงทุนสินทรัพย์เสี่ยง 10%, 25%, 50%, 75% และสูงสุดที่สัดส่วนสินทรัพย์เสี่ยง 90%

“กองทุนบีแคป โกลบอล เวลท์ เพื่อการออม (BCAP -GW SSF)” มีนโยบายลงทุนในสินทรัพย์ทั้งในและต่างประเทศในหลากหลายสินทรัพย์ ที่คัดสรร ETF ทั่วโลกเกือบ 70,000 ตัว มาจัดเป็นพอร์ตการลงทุนแบบเบ็ดเสร็จ โดยมีทีมผู้จัดการกองทุนกว่าสิบชีวิตดูแลปรับพอร์ตให้ตลอดเวลา เพื่อให้เหมาะสมกับทุกสภาวะตลาด โดยมี 5 รูปแบบการลงทุนให้เลือกและ “กองทุนบีแคป โกลบอล ทาร์เก็ต เดท เพื่อการเลี้ยงชีพ (BCAP Global Target Date RMF)”  มีนโยบายปรับระดับการลงทุนพอร์ตให้อัตโนมัติเพื่อให้เหมาะสมกับช่วงอายุ

 

 

 

@mitihoonwealth
https://lin.ee/cXAf0Dp