AA&P ส่องเทรนด์ลงทุนส่งท้ายปี 65 แนะบจ.ใช้นวัตกรรมเครื่องมือทางการเงินให้เหมาะ พร้อมสู้ศึกการกลับมาของภาคการลงทุนในปี 66 

38

มิติหุ้น – บริษัท แอดไวเซอรี่ อัลไลแอนซ์ แอนด์ พาร์ทเนอร์ส จำกัด หรือ “AA&P” ชี้เศรษฐกิจโลกเข้า  สู่ภาวะถดถอย ตลาดการเงิน-ตลาดทุนความผันผวนต่อเนื่อง จากแรงกดดันภาวะเงินเฟ้อ-ดอกเบี้ยขาขึ้น สบช่องแนะกลุ่มบริษัทจดทะเบียน ควรใช้นวัตกรรมเครื่องมือทางการเงินให้เหมาะสมกับสถานการณ์ เพื่อเร่งพัฒนาธุรกิจให้ยั่งยืน เตรียมความพร้อมสู่การกลับมาของภาคการลงทุนในปี 2566  

นายพรพุทธ ริจิรวนิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท แอดไวเซอรี่ อัลไลแอนซ์ แอนด์ พาร์ทเนอร์ส จำกัด หรือ “AA&P” บริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน เปิดเผยว่า จากแนวโน้มภาพรวมเศรษฐกิจโลกในยุคปัจจุบัน มีแนวโน้มเข้าสู่ภาวะถดถอย โดยจะเห็นได้จากภาคการลงทุนในตลาดเงินและตลาดทุนที่มีการผันผวนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากตัวแปรในหลายๆปัจจัยที่เข้ามากระทบต่อภาคการลงทุน จนส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของค่าเงินในช่วงที่ผ่านมา จากภาวะเงินเฟ้อที่ส่งผลให้หลายประเทศทั่วโลกมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เพื่อสกัดกั้นความร้อนแรง ส่งผลให้ภาพรวมการลงทุนในประเทศไทยตลอดปี 2565 มีความผันผวนในทุกสินทรัพย์ อาทิ หุ้น พันธบัตร คริปโทเคอร์เรนซี ทองคำ ค่าเงิน และมองว่าความผันผวนดังกล่าวยังคงต่อเนื่องไปจนถึงปี 2566

“แนวโน้มการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยนโยบายของประเทศไทย ยังคงมีต่อเนื่องให้เห็นในระยะ 2-3 ปีต่อจากนี้ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อต้นทุนทางการเงินของกลุ่มบริษัทที่จดทะเบียน รวมถึงผลประกอบการของกลุ่มบริษัทดังกล่าว และภาระหนี้ที่มีอยู่ อาจส่งผลให้หลายบริษัทจดทะเบียนต้องระมัดระวังการลงทุนมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็ก ดังนั้นด้วยภาวะการลงทุนในลักษณะนี้ ยิ่งต้องทำให้กลุ่มบริษัท จดทะเบียนต้องเลือกใช้เครื่องมือทางการเงินให้เหมาะสม เพื่อให้ได้เม็ดเงินสำหรับการขยายการลงทุนได้ให้คุ้มค่าและสร้างผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้นให้ได้มากที่สุด”

ในฐานะที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญด้านงานการเงิน AA&P มองว่า จากแนวโน้มการปรับตัวเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้กลุ่มบริษัทจดทะเบียน หันมาให้ความสำคัญในเรื่องบริหารความเสี่ยง บริหารต้นทุนทางการเงิน รวมถึงการนำเครื่องมือทางการเงินมาใช้เพื่อรองรับการขยายการลงทุนของบริษัท ในการสร้างมูลค่าเพิ่มและศักยภาพทางธุรกิจให้ความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น เพื่อสร้างความได้เปรียบทางธุรกิจและการแข่งขัน AA&P  จึงมองเห็นโอกาสในช่วงภาวะการณ์แบบนี้ บริษัทจดทะเบียนควรต้องเร่งหาเครื่องมือทางการเงินเพื่อเร่งพัฒนาธุรกิจให้ยั่งยืน เพื่อเตรียมความพร้อมสู่การกลับมาของภาคการลงทุนในปี 2566 ที่คาดว่าเม็ดเงินจากต่างประเทศจะไหลกลับเข้ามาในประเทศไทย ดังนั้นหากกลุ่มผู้ประกอบการบริษัทจดทะเบียนโดยเฉพาะขนาดกลางและขนาดเล็ก สามารถปรับตัวและมีฐานการเงินที่แข็งแกร่งก็ย่อมได้เปรียบ

ทั้งนี้ จากภาพรวมที่กล่าวมา ด้วยประสบการณ์จากธุรกิจที่ปรึกษาทางการเงินของ AA&P จึงเข้าใจดีว่ากลุ่มบริษัทจดทะเบียนและนักลงทุนต้องการอะไร เนื่อง AA&P เป็นผู้นำในการสร้างนวัตกรรมเครื่องมือทางการเงิน ที่มุ่งเน้นออกแบบเครื่องมือทางการเงินที่เหมาะกับพื้นฐานของธุรกิจในแต่ละบริษัทและช่วงเวลาที่เหมาะสม  ดังนั้น AA&P จึงมีความแตกต่างด้วยความสามารถในการใช้เครื่องมือทางการเงิน ทั้งตราสารทุน และตราสารหนี้ ในการระดมทุนให้เหมาะกับกลุ่มบริษัทจดทะเบียนขนาดกลางและขนาดเล็ก ด้วยรูปแบบการบริการจัดทำแผนกลยุทธ์ในตลาดทุน (Capital Market Strategy) และความร่วมมือในฐานะพาร์ทเนอร์คู่คิดทางการเงินกับบริษัทจดทะเบียน (Strategic Financial Partner) ที่ตั้งเป้าหมายผลักดันการออกและเสนอขาย “หุ้นกู้แปลงสภาพ (CB)” ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนทางการเงิน เป็นทางเลือกใหม่ในการระดมทุน ให้กับบริษัทจดทะเบียนและสร้างโอกาสเข้าถึงการลงทุนหุ้นกู้ให้กับนักลงทุนไทย

“AA&P เป็นเพื่อนคู่คิดที่เป็นมากกว่าบริษัทที่ปรึกษาทางเงิน ซึ่งมีเครื่องมือทางการเงินที่เพียบพร้อมและครบวงจร เหมาะสมกับกลุ่มบริษัทจดทะเบียนฯ ทั้งการระดมทุนผ่านการออกหุ้นกู้ หรือหุ้นกู้แปลงสภาพ เพราะเป็นเครื่องมือทางการเงินที่สามารถล็อคต้นทุนทางการเงินในระยะยาวให้บริษัทก่อนที่ดอกเบี้ยจะปรับตัวสูงขึ้นในระยะอันใกล้นี้”

 

@mitihoonwealth
https://lin.ee/cXAf0Dp