มิติหุ้น – บมจ.คิงส์เมน ซี.เอ็ม.ที.ไอ “K” ส่งซิกข่าวดี คว้างาน Exhibition “Motor Expo”ส่งท้ายปี จ่อเตรียมบุ๊กรายได้เข้ากระเป๋า125-130 ล้านบาท ในไตรมาส4/65นี้ พร้อมระบุ เข้าโหมดเศรษฐกิจฟื้น กำลังซื้อเริ่มกลับ และQ4 เป็นช่วงไฮซีซั่นงาน Exhibition และ EVENT ส่งสัญญาณเชิงบวกต่อรายได้ทั้งปี ส่อแววเข้าเป้า 700-800 ล้านบาท ล่าสุดตุน Backlog ในมือแล้วกว่า 475 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ต่อเนื่องถึงปี2566 แย้มผลงานปี2566พลิกเทิร์นอะราวด์ หลังปรับโครงสร้างธุรกิจ พร้อมกอดงาน 2 โปรเจ็คใหญ่ MOTOR SHOW และ งานเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ในมือแล้ว
นายวงศกร พิเศษสิทธิ์ ผู้จัดการด้านสื่อสารองค์กรและนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท คิงส์เมน ซี.เอ็ม.ที.ไอ จำกัด (มหาชน) “K” ผู้ประกอบธุรกิจออกแบบและตกแต่งงานแบบครบวงจร 4 ประเภท ดังนี้ 1.ธุรกิจงานตกแต่งภายใน (Interiors), 2.ธุรกิจงานแสดงสินค้าและนิทรรศการ (Exhibitions), 3.ธุรกิจการตลาดทางเลือก (Alternative Marketing) และ 4.ธุรกิจงานพิพิธภัณฑ์และสวนสนุกแนวคิด (Museums & Thematic Park) เปิดเผยว่า ทิศทางการดำเนินงานตั้งแต่ในช่วงไตรมาสที่ 4/2565 มีสัญญาณการฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 คลี่คลาย ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรฐกิจกลับสู่ภาวะปกติ บริษัทฯในฐานะผู้ประกอบการด้านการออกแบบและตกแต่งภายในงาน Exhibition (เอ็กซิบิชั่น) จึงฟื้นในทิศทางที่ดีขึ้น โดยในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีจะเป็นช่วงไฮซีซั่นของงาน Exhibition ซึ่งจะมีงาน Motor Expo ถือเป็นงานใหญ่ประจำปี โดยบริษัทฯได้รับโปรเจ็คงานดังกล่าว ในส่วนกลางและงานออกแบบและตกแต่งบูธพิเศษ ซึ่งคิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 125-130 ล้านบาท
“งาน Motor Expo จะจัดขึ้นในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน-ต้นเดือนธันวาคมนี้ โดย“คิงส์เมน” ในฐานะผู้ประกอบการด้านงาน Exhibition อันดับต้นๆ ของประเทศ ก็ได้รับงานดังกล่าวใน 2 ส่วน ประกอบด้วย 1.งานส่วนกลาง อาทิ การทำป้ายงานประชาสัมพันธ์ต่างๆ การออกแบบและตกแต่งภายในงาน เป็นต้น และ 2.งานในส่วนของบูธพิเศษ คือการออกแบบและตกแต่งเฉพาะบูธของแบรนด์รถยนต์ค่ายต่างๆ อาทิ บูธของแบรนด์รถยนต์ BYD เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีบูธรถยนต์จากค่ายชั้นนำอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งงานดังกล่าวจะสร้างรายได้ และหนุนผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 4/2565 นี้ ให้ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง”
สำหรับภาพรวมของผลการดำเนินงานของบริษัทฯในปี 2565 บริษัทฯเชื่อมั่นว่าจะมีแนวโน้มเติบโต ในทิศทางที่ดีขึ้น โดยบริษัทฯได้วางเป้าหมายรายได้รวมไว้ที่ 700 – 800 ล้านบาท โดยสัดส่วนรายได้ในปีนี้จะมาจากกลุ่มงาน Exhibition (เอ็กซิบิชั่น) และงาน Event (อีเว้นท์) ประมาณ 500-600 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะมาจากกลุ่มงานออกแบบและตกแต่ง (Interior)
อย่างไรก็ตาม ณ วันที่ 10 พฤศจิกายน 2565 บริษัทฯ มีงานในมือ (Backlog) รวมมูลค่า 475 ล้านบาท จะทยอยรับรู้ในช่วงที่เหลือของปีนี้ 250 ล้านบาท ส่วนที่เหลือ จำนวน 225 ล้านบาท จะทยอยรับรู้ในปี 2566
“ภาพรวมของอุตสาหกรรมกลุ่มงาน Exhibitions และงาน Event เริ่มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ชะลอตัวไปกว่า 2 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ยอมรับว่าแม้ในช่วงที่ผ่านมากลุ่มธุรกิจ ดังกล่าวจะปรับมาจัดงานในรูปแบบดิจิตอล (Online) มากขึ้น แต่ก็ไม่สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้ทั้งหมด เนื่องจากเสน่ห์ของงาน Event คือการดึงอารมณ์ของผู้ร่วมงานให้สัมผัสประสบการณ์โดยตรง ดังนั้นจึงมองว่ายิ่งเศรษฐกิจฟื้น การกลับมาของงาน Exhibition และEvent จะยิ่งคึกคักมากขึ้น ซึ่งก็จะส่งอานิสงส์เชิงบวกกับ“K” ผู้ประกอบธุรกิจออกแบบและตกแต่งงานแบบครบวงจร”
จากปัจจัยเชิงบวก ส่งผลให้บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าในปี 2566 ทิศทางของผลการดำเนินงานบริษัทฯจะสามารถพลิกเทิร์นอะราวด์ (Turnaround) ได้อย่างแน่นอน หลังจากในช่วงที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้มีการปรับโครงสร้าง ในส่วนของงาน Interior ให้สอดรับกับภาวะตลาดในปัจจุบัน โดยในช่วงต้นปีหน้าบริษัทฯ มีงานใหญ่ที่รอรับรู้รายได้แล้ว ได้แก่ บูธพิเศษบางส่วนในงาน MOTOR SHOW ซึ่งจะมีการจัดขึ้นในเดือนมีนาคมของทุกปี รวมถึงโปรเจ็คด้านเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา และคาดว่าจะมีงานทยอยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะงาน Event ประเภท Pop-Up Store ในกลุ่มลักซ์ชัวรี่ รวมถึงงานออกแบบและตกแต่งร้านชั่วคราวภายในห้างสรรพสินค้า ที่อยู่ในช่วงระหว่างที่ร้านหลักปรับปรุง
@mitihoonwealth
https://lin.ee/cXAf0Dp
