UBA กูรูหุ้นเคาะราคาเป้าหมาย UBA สูงสุดที่ 2.80 บ./หุ้น ชูจุดเด่นผู้นำธุรกิจระบบบำบัดน้ำเสีย- อุโมงค์ระบายน้ำกทม.มาร์เก็ตแชร์เบอร์1 ประเมินกำไรสุทธิ 3 ปีข้างหน้าโตกระฉูด 23 – 37 %

154

มิติหุ้น – กูรูหุ้นเคาะราคาเป้าหมายหุ้นน้องใหม่ป้ายแดง บมจ.ยูทิลิตี้ บิสิเนส อัลลายแอนซ์ (UBA) สูงสุดอยู่ที่ 2.80 บาท/หุ้น มองเป็นผู้ประกอบการที่มีส่วนแบ่งตลาดอันดับ 1 ในธุรกิจการบริหารจัดการเดินระบบน้ำ และบำรุงรักษาอุโมงค์ระบายน้ำให้กับกรุงเทพมหานคร พร้อมประเมินกำไรปี 2565 – 2567 ฟื้นตัวแรงโตระดับ 23 – 37 % มีศักยภาพการเติบโตกําไรที่มั่นคงผลจากการรับรู้รายได้ Backlog ของงาน IOM รวมถึงยังมีโอกาสจากงานประมูลใหม่ราว 1.1 หมื่นล้านบาท หนุนอนาคตโตก้าวกระโดด

บริษัทหลักทรัพย์ อาร์เอชบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)  เปิดเผยบทวิเคราะห์ของหุ้นบริษัทยูทิลิตี้ บิสิเนส อัลลายแอนซ์ จำกัด (มหาชน ) หรือ UBA โดยประเมินมูลค่าพื้นฐานปี 2566 อยู่ที่ราคา 2.80 บาทต่อหุ้น อิง Targeted P/E 19 เท่า ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยการซื้อขายหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ

จุดเด่นของ UBA คือสามารถบริหารจัดการนํ้าครบวงจร มีโอกาสขยายงานจากข้อบังคับทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการบําบัดนํ้าเสียที่เข้มงวดขึ้น ขณะเดียวกันมีโอกาสขยายงานจากการเติบโตของอุตสาหกรรม รวมถึงภาพรวมผลประกอบการโดดเด่นเมื่อเทียบกับคู่แข่ง ตลอดจนมีส่วนแบ่งการตลาดอันดับ 1ของโรงบําบัดนํ้าเสียกรุงเทพมหานคร (กทม.) และมีความเชี่ยวชาญการจัดการงานอุโมงค์ระบายนํ้าแก่กทม.

ทั้งนี้ มีมุมมองเชิงบวกต่อผลการดำเนินงาน จากแผนงานขยายโครงการของกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นลูกค้าหลัก และการเติบโตของอุตสาหกรรมจากลูกค้ารายอื่น คาดผลการดําเนินงานปี 2565 – 2567 เติบโตต่อเนื่อง จากการรับรู้รายได้ทั้งในส่วน Backlog งาน IOM รวมถึงการรับรู้รายได้จากโครงการใหม่ต่างๆ หนุนยอดขาย และประเมินกําไรสุทธิเติบโตในอัตราเร่ง ใน 3 ปีข้างหน้า ( 2565 – 2567 ) ที่ระดับ 23 – 37 % ประมาณการรายได้รวมเติบโต 25% และ 44% ขณะที่ Net Profit Margin ใน 3 ปี ( 2565 – 2567 ) ที่ระดับ 9.7-10.5%จากการประหยัดต่อขนาดต้นทุนบริหารงาน  ส่วน ROE จะเร่งตัวเป็น 13.3% ในปี 2567 (2565: 12.6%) นับว่ามีศักยภาพการเติบโตของกําไรที่มั่นคง

บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด ระบุว่า  UBA เป็นผู้นำด้านการบริหารจัดการน้ำ โดยมีรายได้หลักมาจากงานโครงการที่ได้รับจากกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีแผนที่จะขยาย รวมทั้งเพิ่มความสามารถในการบำบัดน้ำเสียและระบายน้ำเป็น 3 เท่า และ 2.4 เท่าภายในปี 2570 มีแผนสร้างโรงควบคุมคุณภาพน้ำอีก 12 แห่ง ภายในปี 2570 เพื่อให้สามารถบำบัดน้ำเสียได้วันละ 3 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน จากปัจจุบันมีโรงควบคุมคุณภาพน้ำ 22 แห่ง สามารถบำบัดน้ำเสียรวม 1,483,400 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ซึ่งคิดเป็นเพียงความสามารถในการบำบัดน้ำเสียอยู่ที่ 59.07% เมื่อเทียบกับปริมาณการใช้น้ำประปาที่ 2,511,468 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน

รวมทั้งแผนเพิ่มอุโมงค์ระบายน้ำอีก 6 แห่ง เพื่อให้สามารถระบายน้ำได้เป็น 463 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ภายในปี 2570 จากปัจจุบันกรุงเทพฯ มีอุโมงค์ระบายน้ำ 4 แห่ง สามารถระบายน้ำได้ 195 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เนื่องจากปัญหาน้ำท่วมจากฝนตกในหลายพื้นที่ ไม่สามารถระบายน้ำได้ตามแผน

คาดการณ์กำไรสุทธิเติบโตเฉลี่ย ( CAGR ) ปี 2564 – 2566 ที่ 30% ต่อปี สำหรับปี 2565 คาดกำไรสุทธิที่ 68.3 ล้านบาท ( เติบโต 30% YoY) และปี 2566 ประเมินกำไรสุทธิที่ 80.4 ล้านบาท ( เติบโต 23% YoY) ปี 2567 กำไรสุทธิที่ 89.0 ล้านบาท ( เติบโต 30% YoY) เนื่องจาก ความพร้อมการเข้าร่วมประมูลงานใหม่ราว1.1 หมื่นล้านบาทในปี 2565 – 2567 โดยประเมินราคาราคาเป้าหมายที่ 2.54 บาท ในปี 2566

บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด  (มหาชน) เปิดเผยว่า จุดเด่นของ UBA อยู่ในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับการปกป้องสิ่งแวดล้อมมีแนวโน้มเติบโต  เป็นธุรกิจที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านทางให้การแข่งขัน และงานโครงการบริหารทรัพยากรน้ำมีแนวโน้มเกิดขึ้นต่อเนื่อง ซึ่ง UBA มีกทม.เป็นลูกค้าหลัก ซึ่งมีแผนเปิดประมูลโครงการใหม่ๆ ได้แก่แผนสร้างโรงบำบัดน้ำเสีย 15 แห่ง (ปี 2562 -2578 ) และการสร้างอุโมงค์ระบายน้ำ 6 แห่ง (ปี 2564 -2569 ) และต่อสัญญาโครงการเดิมต่อเนื่อง รวมทั้งมี Backlog รอรับรู้รายได้ถึงปี 2569  ประเมินกำไรสุทธิปี 2565 -2567 เติบโตเฉลี่ย +31% ต่อปี  เป็น 63 ล้านบาท  88 ล้านบาท และ 117 ล้านบาท โดยคาดการณ์ราคาเป้าหมายปี 2566 เท่ากับ 2.20 บาท (DCF) เทียบเท่า PE’23F ที่ 14.9 เท่าใกล้เคียงหุ้นกลุ่มงานประมูลและบริการสาธารณูปโภค

 

 

@mitihoonwealth
https://lin.ee/cXAf0Dp