บลจ.ไทยพาณิชย์ จับจังหวะลงทุน Blockchain เปิดขาย “SCBBLOC” สร้างโอกาสจากหุ้นเทคโนโลยีเปลี่ยนโลกที่พร้อมเติบโต

585

บลจ.ไทยพาณิชย์ จับจังหวะลงทุน Blockchain เปิดขาย “SCBBLOC” IPO 27 ก.ค. – 9 ส.ค. นี้ สร้างโอกาสจากหุ้นเทคโนโลยีเปลี่ยนโลกที่พร้อมเติบโต

นางนันท์มนัส เปี่ยมทิพย์มนัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ มองว่าเทคโนโลยี Blockchain กำลังอยู่ในช่วงเติบโต มีการนำไปใช้อย่างแพร่หลายในหลากหลายอุตสาหกรรม และนักลงทุนก็ให้ความสนใจกับการลงทุนใน Technology Blockchain มากขึ้นจึงได้เปิดเสนอขายกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ Blockchain (SCB Blockchain : SCBBLOC) มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท

โดยเบื้องต้นได้เปิดขาย 2 Share Class ได้แก่ ชนิดสะสมมูลค่า – SCBBLOC(A) ที่เปิดให้ซื้อได้ในทุกช่องทาง และชนิดช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ – SCBBLOC(E) ในรูปแบบ e-Class ซึ่งฟรีค่าธรรมเนียมการซื้อและการจัดการ โดยต้องลงทุนผ่าน SCBAM Fund Click เท่านั้น กองทุนนี้เหมาะสำหรับนักลงทุนระยะยาวที่เชื่อมั่นในโอกาสเติบโตของเทคโนโลยี Blockchain รวมถึงผู้ที่ต้องการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ Cryptocurrency สามารถความผันผวนด้านราคาในระยะสั้นได้ เริ่มเสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 27 ก.ค. – ส.ค. 2564 นี้ ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 1,000 บาท

เทคโนโลยี Blockchain เริ่มแรกถูกสร้างขึ้นมาเพื่อสร้างสกุลเงินดิจิทัลอย่าง Bitcoin ซึ่งเป็น Cryptocurrency ประเภทหนึ่งที่ต้องการความปลอดภัยสูง เพื่อใช้ส่งผ่านมูลค่าโดยไม่ต้องผ่านเทคโนโลยีตัวกลางเหมือนในอดีต ส่งผลให้อุตสาหกรรมการลงทุนทั่วโลกพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ บริษัทชั้นนำของโลกเริ่มหันมาใช้เทคโนโลยี Blockchain กันอย่างแพร่หลายมากขึ้น โดยได้นำไปประยุกต์ใช้ในด้านต่าง ๆ เช่น การประกันภัย การกุศล ธุรกิจอาหาร และการแพทย์ เป็นต้น ปัจจุบัน Blockchain อยู่ในช่วงที่กำลังเติบโตหลังจากที่ผ่านช่วงลองผิดลองถูกมาแล้วตั้งแต่ปี 2008 โดยทาง IDC ได้คาดการณ์ว่า ในปี 2024 บริษัทต่าง ๆ จะมีการลงทุนใน Blockchain สูงถึง 19 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือเติบโตกว่า 48% ต่อปี (ที่มา: Harvest และ IDC ณ เมษายน 2564) และจากการสำรวจโดย 451 Alliance บริษัทชั้นนำด้านวิจัยเทคโนโลยี พบว่า 52% ของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการผลิต มีแผนจะใช้งาน Blockchain เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน จากปัจจัยเหล่านี้จึงทำให้หุ้นที่เกี่ยวข้องกับ Blockchain มีความน่าสนใจและสามารถสร้างโอกาสการลงทุนได้ในระยะยาว” นางนันท์มนัส กล่าว

Blockchain คือ นวัตกรรมทางเทคโนโลยีที่ช่วยนำมาซึ่งความปลอดภัย น่าเชื่อถือ ภายใต้แนวคิดการสร้างข้อมูลที่ทุกฝ่ายยอมรับซึ่งกันและกัน โดยไม่ต้องผ่านตัวกลางในการส่งข้อมูลด้วยการนำข้อมูลบันทึกลงในกล่องสี่เหลี่ยมโดยมีข้อมูลเหมือนกันทุกกล่อง (Block) และเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างกันแบบห่วงโซ่ (Chain) ซึ่งจะถูกกระจายไปใน Network ทั้งหมดทำให้ไม่สามารถแก้ไขข้อมูลได้ จึงทำให้ระบบ Blockchain มีความปลอดภัยสูง โดยข้อดีหลัก ๆ ประกอบด้วย 1) สามารถจัดเก็บข้อมูล เปรียบเสมือนเครือข่ายการเก็บข้อมูลแบบหนึ่งที่ทุกคนสามารถเข้าถึงและได้รับข้อมูลเดียวกัน 2) ปลอดภัย ไม่สามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อมูลที่ถูกจัดเก็บไปแล้วได้ และ 3) กระจายศูนย์ ไม่ถูกควบคุมโดยใครคนใดคนหนึ่ง ข้อมูลจะถูกเปิดเผยเป็นสาธารณะและสามารถถูกเข้ามาตรวจสอบได้

สำหรับกองทุน SCBBLOC เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว ได้แก่ Invesco Elwood Global Blockchain UCITS ETF (กองทุนหลัก) ในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) เฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน จดทะเบียนภายใต้กฎหมายของประเทศไอร์แลนด์ และอยู่ภายใต้ UCITS ซื้อขายผ่านตลาด London Stock Exchange

โดยกองทุนหลักจะเน้นลงทุนในหุ้นทั่วโลก ที่มีส่วนร่วมหรือมีความเกี่ยวข้องกับทคโนโลยี Blockchain เช่น Blockchain Financial Services, Blockchain Technology Solutions และ Crypto Mining Hardware โดยจะกระจายการลงทุนในหลากหลายประเทศ เช่น สหรัฐฯ ญี่ปุ่น แคนาดา เกาหลีใต้ ไต้หวัน และแถบยุโรป เป็น ทั้งนี้ กองทุนจะลงทุนหรือมีไว้ในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนของหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินในสกุลเงินต่างประเทศ ตามดุลยพินิจผู้จัดการกองทุน

กองทุนหลักบริหารโดย Elwood Asset Management ซึ่งเป็นบริษัทจัดการการลงทุนที่มีความเชี่ยวชาญในการจัดการด้าน Digital Asset จะทำการกระจายการลงทุนในหุ้น 45-75 บริษัททั่วโลก เพื่อรองรับการเติบโตในระบบนิเวศธุรกิจ Blockchain ด้วยการค้นหาหุ้นที่น่าสนใจ จากการเลือกหุ้นที่จดทะเบียนในประเทศพัฒนาแล้วและตลาดเกิดใหม่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องใน Blockchain Ecosystem และเฟ้นหาหุ้นที่มีศักยภาพในการเติบโตด้วยวิธี Bottom up โดยมีกรอบการให้คะแนนในการพิจารณา เมื่อได้คะแนนในแต่ละ criteria แล้ว จะนำมาคำนวณเพื่อจัดหมวดหมู่และให้คะแนนกับบริษัทนั้น ๆ (Blockchain Category Score) เพื่อมาใช้จัดน้ำหนักดัชนีและประเมินสภาพคล่องพร้อมทั้งจำกัดการลงทุนในหุ้นแต่ละตัวไม่เกิน 5% ของดัชนี