วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน

68

 

ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังมีความเป็นไปได้ที่ความขัดแย้งของกลุ่มโอเปกจะทำให้ผู้ผลิตบางรายส่งออกเพิ่มขึ้น

–  ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ปรับลด หลังตลาดกังวลว่าการยกเลิกการประชุมของกลุ่มโอเปกและประเทศพันธมิตร อาจส่งผลให้ผู้ผลิตบางรายปรับเพิ่มกำลังการผลิตและเริ่มส่งออกน้ำมันดิบเพิ่มมากขึ้นในอนาคต โดยกลุ่มโอเปกและประเทศพันธมิตรยังคงไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในการปรับระดับการผลิตในช่วงเดือน ส.ค. ถึง ธ.ค. 64 ได้ ขณะที่ในปัจจุบันยังไม่มีกำหนดการแน่ชัดว่าการหารือครั้งต่อไปจะจัดขึ้นเมื่อใด

– นักวิเคราะห์คาดว่าผู้ผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐฯ จะเริ่มเพิ่มกำลังการผลิตหลังราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นไปอยู่ในระดับสูง โดยปัจจุบันการผลิตในสหรัฐฯ อยู่ที่ประมาณ 11 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งยังมีช่องว่างให้การผลิตปรับเพิ่มขึ้น

– ค่าเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักอื่นๆ ส่งผลให้ตลาดน้ำมันมีความน่าสนใจน้อยลงสำหรับนักลงทุน เนื่องจากราคาน้ำมันดิบจะมีราคาที่ไม่น่าดึงดูดใจสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น

+  นักวิเคราะห์คาดว่าปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา จะปรับตัวลดลง 3.9 ล้านบาร์เรล ลงมาแตะระดับที่ 448.4 ล้านบาร์เรล เนื่องจากโรงกลั่นในสหรัฐฯ มีการปรับเพิ่มกำลังการผลิตในช่วงที่ผ่านมา

ราคาน้ำมันเบนซิน-ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปทานในภูมิภาคได้รับแรงกดดันจากโรงกลั่นในนิวซีแลนด์ที่เตรียมขออนุมัติผู้ถือหุ้นในการเปลี่ยนโรงกลั่นน้ำมันเป็นเทอร์มินัลในการนำเข้า นอกจากนี้ราคายังได้รับแรงหนุนจากความต้องการในที่พื้นตัวในปากีสถาน

ราคาน้ำมันดีเซล-ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปทานในภูมิภาคได้รับแรงหนุนจากการส่งออกน้ำมันดีเซลจากโรงกลั่นในประเทศมาเลเซียที่ปรับตัวสูงขึ้น

หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ. ไทยออยล์