SCGP พร้อมจะบิน

457

ทางหลักทรัพย์กรุงศรีได้มีการปรับประมาณการกำไร รวมถึงราคาเป้าหมายของ SCGP เพิ่มขึ้นเป็น 65บาทต่อหุ้น (จาก 60บาทต่อหุ้น) โดยมองว่าส่วนต่างกระดาษผิวกล่องจะอ่อนแอลงแต่ยังอยุ่ในระดับที่ดี กลยุทธ์การขายพ่วงและการรวมสายผลิตภัณฑ์จะสร้างซินเนอร์จีมากขึ้นในปี FY22 ดีล Duy Tan และ Intan จะแล้วเสร็จใน 3Q21 โดยเรารวม Intan เข้าในโมเดลและเพิ่มอัตรา EBITDA 130bp ในปี 2022 เป็น 20.6% เพื่อสะท้อนผลซินเนอจีจากการรวมบริษัท ทำให้คาดการณ์กำไรเพิ่มขึ้น 9%/15% ในปี FY21/22F และราคาเป้าหมาย DCF เป็น 65บาท 30x/26x PE FY21/22F

 

แม้ส่วนต่างกระดาษผิวกล่องจะลดลง แต่ยังอยู่ในระดับที่ดี ค่าขนส่งสูงขึ้นทำให้ราคา AOCC ขึ้น US$37 qoq เป็น US$269/t ในเม.ย./พ.ค. แต่ราคากระดาษผิวกล่องลดลง US$23 qoq สู่ US$518/t ทำให้ส่วนต่างลดลง US$60 qoq เป็น US$249/t แต่ยังอยู่ในระดับที่ดีและใกล้เคียงระดับเฉลี่ย US$248 ปี 2020 เราคาดราคา AOCC อยู่ในระดับสูงใน 2Q21 – 3Q21 จากต้นทุนขนส่งและความต้องการที่ดีในเอเชีย SCGP ซื้อ AOCC 55% ในไทยและ 45% นำเข้าจากสหรัฐฯ, ญี่ปุ่น, ยุโรปและออสเตรเลีย SCGP ใช้กระดาษบรรจุภัณฑ์ 20% (0.8ล้านตันต่อปี) และขายส่วนที่เหลือ (3.2ล้านตันต่อปี) คาดปริมาณขายลดใน 2Q21 จากวันหยุดยาวในไทยและอินโดฯ ประกอบกับส่วนต่างลดลงกดดันกำไรจากกระดาษบรรจุภัณฑ์ (52% ของรายได้ 1Q) ราคาไฟเบอร์สั้นเพิ่มขึ้น US$114 qoq เป็น US$770/t ในเม.ย./พ.ค. SCGP ใช้ไฟเบอร์สั้น 75% ในบริษัทและขายที่เหลือ (กำลังการผลิต 2แสนตันต่อปี) คาดสองธุรกิจนี้จะทำให้ EBITDA ลด 6-8% qoq กดดันกำไร 2Q21 ลดลง qoq

 

ซินเนอร์จีจากการขายพ่วงผลิตภัณฑ์และการรวมสายผลิตภัณฑ์ ดีล Duy Tan และ Intan จะแล้วเสร็จใน 3Q21 – Duy Tan ผลิตบรรจุภัณฑ์คงรูปในเวียดนาม ได้แก่ บรรจุภัณฑ์อาหาร, ผลิตภัณฑ์ดูแลผู้ป่วยที่บ้าน (home care), ผลิตภัณฑ์ส่วนบุคคล, และบรรจุภัณฑ์อาหาร มีอัตรา EBITDA 17-18% ระดับเดียวกับ SCGP โดยทาง SCGP วางแผนในการเพิ่มประโยชน์จากการขายพ่วงผลิตภัณฑ์ รวมถึงบรรจุภัณฑ์ไฟเบอร์จาก SOVI ที่จับตลาด FMCG Intan เป็นผู้ผลิตกล่องในอินโดนิเซีย ลูกค้าของ Fajar (SCGP มีหุ้น 55%) แม้ SCGP ยังไม่มีซินเนอร์จีในจุดนี้ แต่อัตราต้นทุนขั้นต้นลดลงในช่วง 5 ปีหลังจาก 83% เป็น 79% ในช่วง 2016-20 และเพิ่มอัตรา EBITDA จาก 14% เป็น 18% เราคาด อัตรา EBITDA ของ SCGP จะแตะระดับ 18.7%, 20.6% และ 21.5% ในช่วงปี 2021-23

 

Disclaimer:  เอกสาร/รายงานฉบับนี้จัดทำขึ้นบนพื้นฐานข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณชน ซึ่งพิจารณาแล้วว่ามีความน่าเชื่อถือ อย่างไรก็ตาม บมจ.หลักทรัพย์กรุงศรี มิอาจรับรองความถูกต้องและความสมบูรณ์ของข้อมูลดังกล่าวได้ บทความดังกล่าวเป็นเพียงแนวคิดของผู้จัดทำเพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการลงทุน บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงความเห็นหรือประมาณการต่างๆที่ปรากฏในเอกสาร/รายงานฉบับนี้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้าดังนั้นนักลงทุนโปรดใช้ดุลพินิจอย่างรอบคอบในการพิจารณาการลงทุน

www.mitihoon.com