หั่นดอกเบี้ย 0.49% สะเทือนกลุ่มไฟแนนซ์?

2063
จากประเด็น บริษัท เงินสดทันใจ จำกัด (JV ของธ.ออมสิน และ SAWAD) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถจักรยานยนต์เป็น 0.49% ต่อเดือน จาก 0.69% เป็นระยะเวลา 2 เดือน เพื่อช่วยลดปัญหาสภาพคล่องแก่ลูกค้าที่ถูกกระทบจากโควิด-19 ระบาดระลอกที่ 3

เป็นลบกับกลุ่มไฟแนนซ์

ความเห็นในเชิงกลยุทธ์ “บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส” ประเมินว่า ระยะสั้นเป็น Sentiment ลบกับกลุ่มไฟแนนซ์ แต่ผลกระทบที่แท้จริง คาดว่าจะไม่รุนแรง เพราะทางการให้อัตราดอกเบี้ยต่ำ 0.49% ต่อเดือนเป็นเพียงชั่วคราว 2 เดือน และโปรฯ จะใช้แบบมีเงื่อนไขว่า (เช่น ต้องจ่ายหนี้ตรงเวลา แต่ถ้าไม่ตรงอัตราดอกเบี้ยจะเป็น 15-18% ต่อปี) และด้วยการจัดโครงสร้าง JV ที่ทำกับธ.ออมสิน ผู้บริหาร SAWAD กล่าวว่าที่อัตราดอกเบี้ย 10-11% ทาง JV คือ บริษัทเงินสดทันใจ ยังทำกำไรได้

ด้าน MTC ยืนยันว่าจะไม่ลดอัตราดอกเบี้ยลงมาแข่งที่ 10-11% โดยจะมุ่งเน้นขยายสินเชื่อเช่าซื้อที่มีYield สูงราว 24% ตั้งเป้าสินเชื่อเช่าซื้อเติบโตอย่างน้อย 25% ในปี 64

สำหรับ TIDLOR จะไม่ลดดอกเบี้ยสินเชื่อจำนำเพื่อแข่งขันราคา โดยบริษัทมีรายได้ค่า Fee จากการขายประกันที่เติบโตแกร่งราว 40% ในปีนี้ช่วยหนุนการเติบโต
ดังนั้น แนะนำ ราคาหุ้นอ่อนตัวเป็นจังหวะ “ซื้อ”

การแข่งขันสูง แต่ให้น้ำหนักสินเชื่อเติบโต

ฝ่ายวิจัย “บล.เอเชีย พลัส” ประเมินว่า ภาพรวมสินเชื่อจำนำทะเบียนมีการแข่งขันรุนแรงขึ้นในสินเชื่อจำนำทะเบียนรถจักรยานยนต์ ส่วนสินเชื่อประเภทอื่นการแข่งขันไม่รุนแรงมากนัก นำโดย บจ. เงินสดทันใจ (SAWAD ถือหุ้น 49% ของทุนชำระแล้ว) จะเน้นปล่อยสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำให้ลูกค้าชั้นดีมากขึ้น
โดยปัจจุบันบจ. เงินสดทันใจ ได้ออกโปรโมชั่นสินเชื่อจำนำทะเบียนรถจักรยานยนต์ให้ลูกค้าใหม่ที่มีเอกสารการเงินดี ในช่วงพ.ค.-มิ.ย. 64 ที่อัตราดอกเบี้ยราว 11% (แต่มีเงื่อนไข เช่น หากไม่ส่งค่างวด 1 เดือน อัตราดอกเบี้ยจะปรับเพิ่มขึ้นเป็น 18% เป็นต้น) โดยบจ. เงินสดทันใจตั้งเป้าสินเชื่อจากโปรโมชั่นดังกล่าวถึง 5 พันล้านบาท
ขณะที่ MTC ก็ออกโปรโมชั่นสินเชื่อจำนำทะเบียนรถจักรยานยนต์ให้ลูกค้าทุกรายในอัตราดอกเบี้ย 15% ในช่วงเดือนเม.ย.-มิ.ย. 64 และจะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงไปกว่านี้แล้ว ซึ่งก็ทำให้การแข่งขันในอุตสาหกรรมสินเชื่อจำนำทะเบียนรถจักรยานยนต์รุนแรงขึ้น ขณะที่ TIDLOR ไม่ได้มีการแข่งขันด้านอัตราดอกเบี้ย อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิจัยให้น้ำหนักการเติบโตของสินเชื่อในปี 2564 ตามการขยายสาขาและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจมากกว่า ซึ่งก็เห็นการเติบโตที่ดีตั้งแต่ต้นปี 64

ฝ่ายวิจัยประเมินว่าราคาหุ้นในกลุ่มในปรับฐานสะท้อนความกังวลด้านการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้นไปมากแล้ว นำโดยราคาหุ้น SAWAD ปรับลดลงถึง 22% ในรอบ 1 เดือน MTC ปรับลดลงถึง 20% ในช่วงเวลาเดียวกัน และ TIDLOR ปรับลดลง 23% จากราคาสูงสุดตั้งแต่ IPO
โดยฝ่ายวิจัยเลือก MTC เป็น Top pick ราคาเป้าหมาย  80 บาท จากแนวโน้มกำไรสุทธิปี 2564 จะเพิ่มขึ้น 15.2% จากปีก่อน จากแนวโน้มสินเชื่อสุทธิปี 64 เติบโต 20.0% จากปีก่อน โดยยังแนะนำซื้อ SAWAD เป้าหมาย 95 บาท และแนะนำซื้อ TIDLOR เป้าหมาย  44 บาท เมื่ออ่อนตัว

www.mitihoon.com