รายงานพิเศษ : วัคซีนมาช้า (แต่มานะ.) จับหุ้นเด่นรับ 3 เด้งเข้าพอร์ต

3853

การระบาดของไวรัสโควิดระลอกใหม่ ที่ระเบิดการแพร่เชื้อแบบรุนแรงและรวดเร็ว ในช่วงจังหวะที่ “วัคซีน” ต้านไวรัส อยู่ระหว่างการสั่งซื้อ และนำเข้า โดยภาครัฐ ที่แน่นอนแล้วว่าจำนวนของวัคซีนที่จะนำมาฉีดให้คนทั้งประเทศ ย่อมไม่เพียงพอ ดังนั้นภาครัฐจึงต้องหาตัวช่วย โดยการให้เอกชนเป็นอีกแรงในการสั่งซื้อและนำเข้าวัคซีน

โดยโรงพยาบาลเอกชนหลายต่อหลายแห่ง ต่างขานรับและพร้อมในการเป็นผู้นำเข้าวัคซีน แต่ทั้งนี้ต้องได้รับการอนุมัติจากทาง คณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เสียก่อน ซึ่งกระบวนการในส่วนนี้ต้องใช้เวลาไม่น้อย และกลายเป็นประเด็นขึ้นมาว่า อย. ยื้อ ไม่ยอมไฟเขียว โดยภาคเอกชนได้ยื่นขอนำเข้าวัคซีนตั้งแต่ 6 เดือนก่อน จนปัจจุบันยังไม่ได้รับอนุญาตจาก อย.

ในส่วนของ อย. ได้ออกมายืนยันว่า ไม่เคยปิดกั้นภาคเอกชนในการนำเข้าวัคซีน และยังเชิญชวนให้มาขึ้นทะเบียนนำเข้าวัคซีนโดยพร้อมอำนวยความสะดวกให้ด้วย

BCH-CHG โกยรายได้ล้นมือ

ทั้งนี้มีโรงพยาบาลเอกชน ที่พร้อมนำเข้าวัคซีนมีอยู่หลายแห่งด้วยกัน และส่วนใหญ่จะจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งทันทีที่ อย.ออกมาประกาศพร้อมให้ไฟเขียว ราคาหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลดาหน้าปรับตัวขึ้นมากันอย่างคึกคัก

โดยในรายงานฉบับนี้จะไล่เรียงหุ้นในกลุ่มโรงยาบาล ที่จะได้รับผลบวกถึง 3 ต่อด้วยกัน ทั้งจากการให้บริการฉีดวัคซีน การให้บริการตรวจโควิด และมีรายได้จากผู้ใช้สิทธิ์ประกันสังคม

โดย บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ฝ่ายวิจัยคาดโรงพยาบาลประกันสังคม (BCH และ CHG)จะบันทึกรายได้จากการตรวจโควิดสูงขึ้น เนื่องจากผู้ที่มีความเสี่ยงสามารถรับการตรวจได้ฟรี ขณะที่รัฐบาลจะคืนเงินให้โรงพยาบาลในราคา 2,300 บาทต่อการตรวจ 1 ครั้ง คาดว่า BCH จะได้รับประโยชน์สูงสุดจากการตรวจโควิด และประมาณการว่ามีการตรวจ 120,000 ครั้งในไตรมาส 1/64 (ซึ่งเติบโตสูงสุด QoQ ในกลุ่มนี้) เทียบกับ 54,000 ครั้งในไตรมาส 4/63

โดยจะมีรายได้จากการตรวจโควิด 308 ล้านบาทในไตรมาสนี้ (141 ล้านบาทในไตรมาส 4/63) และเป็นปัจจัยหลักหนุน EPS เติบโต 11% QoQ และ 19% YoY น่าจะเป็นปัจจัยกระตุ้นเชิงบวกต่อราคาหุ้น ฝ่ายวิจัยจึงเลือก BCH เป็นหุ้นเด่น

PRINC รับปัจจัยบวก 3 เด้ง-ผลงานแจ่ม

ขณะที่ บมจ.พริ้นซิเพิล แคปิตอล หรือ PRINC โดยนายธานี มณีนุตร์ รองกรรมการผู้จัดการ เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ยกระดับความรุนแรงขึ้นเป็นระยะที่ 3 ส่งผลให้ความต้องการเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิดพุ่งสูงขึ้น

ยอดตรวจหาเชื้อพุ่ง400คนต่อวัน

โดยเฉพาะที่โรงพยาบาล พริ้นซ์ สุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ พบมียอดผู้เข้ารับบริการตรวจโควิดเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยนับจากต้นเดือนเม.ย.64 ที่ผ่านมา จำนวนผู้เข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิดในแบบบริการ Drive Thru พุ่งขึ้นมาสูงสุดถึงระดับ 400 คนต่อวัน ซึ่งเป็นจำนวนที่เพิ่มขึ้นหลายร้อยเท่าตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีการระบาดระยะ1-2 โดยกำหนดอัตราค่าบริการที่ 3,800 บาทต่อคน

จากจำนวนผู้ใช้บริการที่เพิ่มขึ้นดังกล่าว ทางโรงพยาบาลได้มีการปรับแผนรองรับโดยเพิ่มจำนวนหมอและพยาบาล รวมถึงบุคลากร ไปยังโรงพยาบาลที่มีจำนวนผู้ขอรับบริการเพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันมีโรงพยาบาลในเครือ บริษัท พริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์ จำกัด เปิดให้บริการรวม 11 แห่งใน 10 จังหวัด

จ่อนำเข้าวัคซีนรอ อย.ไฟเขียว

ส่วนการนำเข้าวัคซีนโควิด-19 นั้น ได้ยื่นขออนุญาตไปแล้ว แต่ยังอยู่ระหว่างการรอการอนุมัติจาก สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ขณะที่ทางกลุ่มบริษัทได้ดำเนินการติดต่อไปยังบริษัทผู้นำเข้าวัคซีน ซิโนแวก และวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าไปแล้ว อย่างไรก็ดี ในขณะนี้โรงพยาบาลได้ใช้วัคซีนที่มาจากทางภาครัฐเพื่อให้บริการกับประชาชนทั่วไป และคาดหวังจะสามารถนำเข้าได้ในเร็วๆ นี้

รับทรัพย์ขายที่ดินเติมรายได้พุ่ง      

ล่าสุด PRINC ได้อนุมัติจำหน่ายที่ดินพร้อมอาคารสำนักงาน ได้แก่ อาคารบางกอก บิสสิเนส เซ็นเตอร์ ซึ่งเป็นทรัพย์สินของบริษัทย่อย ที่ใช่ในการประกอบอาคารสำนักงานให้เช่า ให้แก่ ทรัสเพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์บังหลวง ออฟฟิศ (B-WORK) ราคาซื้อขายโดยประมาณ 1,550 ลบ.(ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

ทั้งนี้บริษัทยังสนใจขายอสังหาริมทรัพย์อีก 2 แห่ง อาทิ โรงแรมแมริออท สาธร ,อาคาร ซัมเมอร์เซ็ท คาดจะแล้วเพื่อนำมาใช้เป็นเงินลงทุนในการซื้อโรงพยาบาลให้ได้ตามแผน 20 แห่งทั่วประเทศภายในปี 65 และบริษัทก็ยังคาดว่าจะกลับมามีกำไรได้เช่นกัน

ด้านนักวิเคราะห์ ประเมินว่า PRINC จัดเป็นบริษัทเป็นที่มีหนี้สินต่อทุนต่ำ และยังมีกระแสเงินสดในมือสูง หากคิดเพียงเงินลงทุน เงินสด บวกด้วยอาคาร จะมีมูลค่ากว่า 1.3 หมื่นล้านบาท ซึ่งมี Asset/share สูงถึง 3.7 บาท มีส่วนล้ำมูลค่าหุ้นอีก 5 พันล้านบาท นอกจากนี้ PRINC ยังจัดเป็นหุ้นที่มี PBVต่ำเพียง 0.98 เท่า ดังนั้นแนะ ทยอยสะสม ส่วน บล. ฟิลลิป ระบุว่า ราคา PRINC ผ่านแนวต้านแถว 4.40 บาทและ MACD เดินหน้าเหนือเส้น Signal ในแดนขาขึ้น จึงคาดว่าราคาจะขึ้นไปต่อได้ แนวรับ 4.40 บาท แนวต้าน 4.58 บาท จุด Cut loss ที่ 4.38 บาท

www.mitihoon.com