กมธ. วิทย์ฯ หนุน “โคราชโมเดล” เทงบวิจัยแก้จน ดันโครงการ ‘อีสานวากิว’ พร้อมเร่งแก้ราคามันตกต่ำ

73

มิติหุ้น – นายอัครวัฒน์ อัศวเหม ประธานคณะกรรมาธิการการวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิจัยและนวัตกรรม สภาผู้แทนราษฎร และคณะ เดินทางศึกษาดูงาน “การพัฒนาอาชีพและเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกรฐานราก ด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิจัยและนวัตกรรม” ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี จ.นครราชสีมา เพื่อหาแนวทางการทำงานร่วมกันระหว่างรัฐบาล มหาวิทยาลัย โดยใช้งานวิจัยเป็นฐาน

โอกาสนี้ศาสตราจารย์กนก วงษ์ตระหง่าน รองประธานคณะกรรมาธิการการวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิจัยและนวัตกรรม สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ตนในฐานะคณะกรรมาธิการการวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิจัยและนวัตกรรม สภาผู้แทนราษฎร ตัวแทนของประชาชน อยากเห็นความร่วมมือของมหาวิทยาลัยในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บูรณาการการทำงานร่วมกัน โดยมีเป้าหมายสำคัญเดียวกันคือการทำงานเพื่อประชาชน ให้ชาวบ้านคนตัวเล็กตัวน้อยมีรายได้มากขึ้น โดยในปีที่ผ่านมาคณะทำงานตระหนักดีว่าการพัฒนาเศรษฐกิจเชิงพื้นที่ เพิ่มรายได้ให้ผู้คน จำเป็นต้องใช้องค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิจัยและนวัตกรรม เป็นเครื่องมือสำคัญในการทำงาน และงบประมาณวิจัยจากการจัดสรรของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริม วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) โดยในปี 2563 ที่ผ่านมา คณะทำงานได้เดินทางไปศึกษาพื้นที่และหนุนการดำเนินการในโครงการวิจัยต่าง ๆ ที่ช่วยแก้ปัญหาปากท้องของชาวบ้านในจังหวัดนำร่อง ไม่ว่าจะเป็น จ.กระบี่ จ.มหาสารคาม จ.จันทบุรี

โดย ดร.วีระพงษ์ แพสุวรรณ อธิการบดี ม.เทคโนโลยีสุรนารี เปิดเผยข้อมูลว่า ปัจจุบันทางมหาวิทยาลัยได้สนับสนุนโครงการวิจัยสำคัญ อาทิ “อีสานวากิว โคเนื้อคุณภาพสูง” เพื่อแก้ปัญหาเกษตรกรขาดเงินทุน ขาดข้อมูลย้อนกลับ ขาดมาตรฐานการเลี้ยง ขาดโรงเชือดมาตรฐานและโรงตัดแต่ง ตลอดจนการขาดการพัฒนาอุตสาหกรรมแปรรูปเนื้อโคขุน โดยมีเป้าหมายระยะ 3 ปีคือ มีเกษตรกรเอสเอมอีเพิ่มขึ้น 80 ราย ภายใต้งบประมาณหนุน 48 ล้านบาท นอกจากนี้ยังหนุนโครงการ “แพลตฟอร์มต้นแบบการบริการจัดการการเพิ่มมูลค่ามันสำปะหลังตลอดห่วงโซ่มูลค่าเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังในพื้นที่ จ.นครราชสีมา” เพื่อให้เกษตรกรมีทักษะการผลิตมันสำปะหลังคุณภาพสูงด้วยระบบน้ำหยด และเข้าใจวิธีการให้ปุ๋ยบนพื้นฐานการวิเคราะห์ค่าดินเป็น เพื่อลดทอนต้นทุนการผลิต ตลอดจนแปรรูปสารสกัดจากมันสำปะหลัง สร้างแพลตฟอร์มการเพิ่มมูลค่าสำปะหลังตลอดห่วงโซ่มูลค่า เป็นต้น

อนึ่งโอกาสนี้ถือเป็นโอกาสอันดีที่ทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นสภาผู้แทนราษฎร หน่วยงานจัดสรรงบวิจัย อย่าง สกสว. และมหาวิทยาลัยในพื้นที่ มีแผนและแนวทางการทำงานที่สอดคล้องกันโดยมีเป้าหมายสำคัญคือยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่

www.mitihoon.com