ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ปตท.หรือ PTT ประกอบธุรกิจปิโตรเลียมและปิโตรเคมีครบวงจร โดยนายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งหลังปี 62 บริษัทเตรียมใช้งบลงทุน 30,000 ล้านบาท จากงบลงทุนทั้งปีจำนวน 60,000 ล้านบาท ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรกใช้ไปแล้วจำนวน 30,000 ล้านบาท สำหรับใช้ในโครงการก่อสร้างคลัง LNG ที่หนองแฟบ จ.ระยอง, สร้างศูนย์นวัตกรรมในพื้นที่เขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EECi), โรงงานรีไซเคิลพลาสติกของ GC และใส่เงินลงทุนบางส่วนสำหรับโครงการพัฒนาแบตเตอรี่ระดับเล็ก
ขณะเดียวกัน บริษัทอยู่ระหว่างทบทวนศึกษาลดพอร์ตการถือหุ้นในเหมืองถ่านหินที่อินโดฯ เนื่องจากเทรนด์ของโลกในอนาคตที่มีการใช้ถ่านหินลดลง และหันไปใช้พลังงานทดแทนในรูปแบบอื่นมากขึ้น โดยแผนระยะยาวบริษัทมีการปรับพอร์ตเข้าสู่พลังงานสะอาดเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดแนวโน้มผลประกอบการปี 62 ปรับตัวลดลงจากปีก่อนเล็กน้อย โดยมองว่าผลประกอบการไตรมาส 2/62 ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว เนื่องจากได้รับผลกระทบจากค่าการกลั่นที่ลดลงในระดับต่ำ และมีผลของการขาดทุนจากสต็อกน้ำมัน แต่ช่วงครึ่งปีหลังหากสามารถยืนได้ในช่วงวิกฤต และจากศักยภาพของกลุ่มที่มีพอร็ตโฟลิโอที่บาลานซ์ขึ้น ทั้งธุรกิจไฟฟ้า และค้าปลีก และไม่มีการตั้งสำรองด้อยค่าแล้ว คาดผลประกอบการจะฟื้นตัวดีขึ้น
สำหรับราคาน้ำมันเฉลี่ยในครึ่งปีหลังประเมินว่าเฉลี่ยอยู่ที่ 65 – 68 เหรียญ ต่ำกว่าปี 61 ที่เฉลี่ย 70 เหรียญ
