ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม หรือ ITEL ผู้นำการให้บริการโครงข่ายใยแก้วนำแสง ให้บริการติดตั้งโครงข่ายและให้บริการพื้นที่ศูนย์สำรองข้อมูลหรือดาต้า เซ็นเตอร์ (Data Center)โดยนายณัฐนัย อนันตรัมพร กรรมการผู้จัดการ เผยว่า มั่นใจว่าผลประกอบการไตรมาส2/62 จะเติบโตดีกว่าไตรมาส1/62 และช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากทยอยรับรู้รายได้จากงานในมือ (Backlog) ที่มีอยู่ 5.7 พันล้านบาท โดยเฉพาะงานอินเทอร์เน็ตพื้นที่ชายขอบ (USO Phase 2) ที่มีความคืบหน้าการก่อสร้างและมีการส่งมอบเพิ่มมากขึ้นในช่วงไตรมาส2-3/62นี้
ตั้งโต๊ะรอเซ็นงานใหม่ 240 ล้าน
นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญางานใหม่อีก 3 โครงการมูลค้ารวม 240 ล้านบาท แบ่งเป็นงานให้บริการเชื่อมต่อระบบโครงข่ายกล้องวงจรปิดใน 6 พื้นที่ของกรุงเทพฯ มูลค่า 60 ล้านบาทคาดว่าเซ็นสัญญาได้ภายในเดือน พ.ค.62 ส่วนงานที่2 คืองานพัฒนาสารสนเทศผู้ใช้น้ำ (CIS) ของการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) มูลค่า 20 ล้านบาทคาดว่าเซ็นสัญญาได้ภายในสิ้นเดือนนี้เช่นกัน
ส่วนอีกงาน คือ โครงการติดตั้งระบบโครงข่ายใยแก้วนำแสงของ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ระยะทาง 3,140 กิโลเมตรมูลค่ารวม 210 ล้านบาทที่เข้าร่วมประมูลกับ บมจ.อินฟอร์เมชั่น แอนด์ คอมมิวนิเคชั่น เน็ทเวิร์คส หรือ ICN โดย ITEL ถือหุ้น 70% มูลค่า 160 ล้านบาทคาดว่าจะลงนามในสัญญาได้ในเดือน มิ.ย. 62 ซึ่งทั้ง3 โครงการนี้จะส่งผลให้ Backlog เพิ่มเป็น 5.94 พันล้านบาท
มั่นใจรายได้ทั้งปีพุ่ง 40%
นอกจากนี้ในไตรมาส2/62 ยังได้เตรียมเข้าประมูลงานอีก 3 โครงการคือ การให้บริการอินเทอร์เน็ต 200 บาทซึ่งเป็นโครงการต่อยอดจากอินเทอร์เน็ตชายขอบ ของสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) งานที่2 คืองานกล้องวงจรปิดของ อ.พัทยา และ3.ให้บริการระบบซีเคียวริตี้ผ่านดาต้าเซ็นเตอร์
ทั้งนี้จากงานที่มีอยู่ในมือและงานที่เซ็นสัญญาเข้ามาเพิ่มนั้นจะเป็นปัจจัยหนุนให้รายได้เติบโตตามเป้าหมาย 40%
