GUNKUL เซียนหุ้นส่องปี 62 สดใส อานิสงส์โรงไฟฟ้าพลังลมผลิตเต็มปี –โซลาร์ฟาร์มญี่ปุ่นเดินเครื่อง เชียร์ “ซื้อ” เป้า 5 บ.

234

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บล. แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เผยแพร่บทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” หุ้น บมจ. กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง หรือ GUNKUL เพื่อการลงทุนในระยะยาว โดยมีปัจจัยหนุน คือ กำไรปี 2561-2562 เติบโตสูง,โรงไฟฟ้าพลังงานลมในประเทศไทยจะสร้างกำไรให้เติบโตต่อเนื่อง และมั่นคงในระยะยาว, มีโอกาสชนะประมูลโครงการเคเบิ้ลใต้ทะเล และ/หรือวางสายไฟฟ้าลงใต้ดิน ซึ่งคาดว่าจะเปิดประมูลในไตรมาส 4/2561 ถึงไตรมาส 1/2562

ขณะเดียวกัน ราคาหุ้นยังมี Upside gain ถึง 62% จากราคาเป้าหมาย 5 บาท (SOTP) เทียบเท่า 19F P/B = 3.5 เท่า  ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 4 ปีที่ 4.5 เท่า

ทั้งนี้ ทางฝ่ายประเมินปี 2562 กำไรจะเติบโตต่อเนื่อง จากการรับรู้กำไรเต็มปีของโรงไฟฟ้าพลังงานลมทั้ง 3 โครงการ กำลังการผลิตรวม 170 เมกะวัตต์ (WED+GNP+KWE=60+60+50 MW) และโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ที่ประเทศญี่ปุ่น  จำนวน 2 โครงการ (Sendai,Kimitsu) ขนาด 31.8+33.5=65.3 เมกะวัตต์ (78.5 เมกะวัตต์ติดตั้ง)

โดยโซลาร์ฟาร์ม เซนได (GK Sendai) ได้เริ่มผลิตแล้วเมื่อ 1 พ.ย.2561  ส่วนโซลาร์ฟาร์ม คิมิสึ จะเริ่มผลิตในเดือน ก.พ.2562  และรายได้ของธุรกิจก่อสร้างที่เพิ่มขึ้น จากการซื้อกิจการ FEC ทำให้บริษทสามารถเข้าร่วมประมูลโครงการขนาดใหญ่ทั้งภาครัฐและเอกชนได้ โดยคาดว่าจะเปิดประมูลในไตรมาส 4/2561 ถึงไตรมาส 1/2562

อย่างไรก็ตาม บทวิเคราะห์คาดว่ากำไรปี 2561 จะเท่ากับ 1,014 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 60% และขยับขึ้นเป็น 1,161 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 14% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา (YoY)  ซึ่งบริษัทได้รายงานผลประกอบการงวดไตรมาส 3/2561 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยมีกำไรสุทธิ 716 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 835% เมื่อเทียบกับปีทีผ่านมา และเพิ่มขึ้น 492% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา ทำให้งวด 9 เดือน ของปี61 มีกำไรปกติอยู่ที่ 867 ล้านบาท  และกำไรสุทธิ 730 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 96% เมื่อเทียบกับปีทีผ่านมา

สำหรับเป้าหมายในระยะยาว การเติบโตของกำไรมาจากธุรกิจพลังงานทดแทน โดยบริษัท ตั้งเป้าหมาย 1,000 เมกะวัตต์ภายในปี 2563 ปัจจุบันมีโครงการในมือ 546.1 เมกะวัตต์ ประกอบด้วยโรงไฟฟ้าที่เปิดผลิตแล้ว 282.7 เมกะวัตต์ ณ ไตรมาส2/2561 และคาดหวังว่าจะได้โครงการใหม่ราว 454 เมกะวัตต์ แบ่งเป็น โครงการ Private PPA ในประเทศไทย ปัจจุบันมีโครงการติดตั้ง Solar rooftop ให้กับกลุ่ม CP ระยะที่ 1 กำลังการผลิต 40 เมกะวัตต์ มูลค่า 1.4 พันล้านบาท  คาดว่าจะเริ่มผลิตในต้นปี 62  และในต่างประเทศ (300 เมกะวัตต์) มุ่งเน้นที่ประเทศญี่ปุ่นและประเทศใน AEC (มาเลเซีย เวียดนาม พม่า)

www.mitihoon.com