KTC – คุณภาพสินทรัพย์และกำไรเติบโตอย่างแข็งแกร่ง

248

ข้อมูลที่ได้จากการประชุมกับผู้บริหารของ KTC ทำให้นักวิเคราะห์กรุงศรีมองว่า คุณภาพสินทรัพย์ที่ดีขึ้นทำให้แนวโน้มกำไรชัดเจนมากขึ้น โดย KTC ยังคงเป้าหมายทางการเงินต่างๆ เอาไว้เท่าเดิม และบอกว่าผลการดำเนินงานโดยรวมดีกว่าที่คาดไว้เนื่องจากทั้ง NPLs และสำรองลดลง ทั้งนี้ CEO บอกว่ากำไรใน FY18F น่าจะอยู่ที่ประมาณ 5 พันล้านบาท ใกล้เคียงกับประมาณการของเรา ซึ่งจะเป็นฐานกำไรใหม่ โดย CFO อธิบายว่า KTC ไม่ได้กลับรายการสำรองแต่สำรองที่ลดลงมีสาเหตุสำคัญมาจากการที่คุณภาพสินทรัพย์ดีขึ้น

ทั้งนี้ KTC ใช้ collective approach ซึ่งอิงจาก loss rate สุทธิจากหนี้เสียที่เรียกคืนได้ในช่วง 60 เดือนก่อนหน้าในการตั้งสำรอง และเมื่อมองต่อไปข้างหน้า เราคาดว่ายอดเรียกคืนหนี้เสียที่อย่างแข็งแกร่ง และสำรองที่ลดลงจะเป็นปัจจัยที่ขับเคลื่อนให้กำไรปีนี้โตได้ถึง 50% yoy

การใช้จ่ายจะดีขึ้น 2H18 และมีแผนเปิดบริการ Nano และ Pico finance ในปี FY19  เราคาดว่ายอดการใช้จ่ายผ่านบัตรของ KTC จะเพิ่มขึ้นเนื่องจากบริษัทจะเพิ่มงบการตลาดเพื่อเร่งขยายฐานลูกค้าใหม่ใน 2H18 โดยใน 1H18 ค่าใช้จ่ายด้านการตลาดของบริษัทอยู่ที่ 396 ล้านบาทเท่านั้น (เนื่องจากเน้นไปที่แคมเปญการตลาด และลูกค้าบัตรเครดิตใหม่มีจำนวนไม่มาก) จากงบที่ตั้งไว้ถึง 1.0 พันล้านบาทในปีนี้ โดย KTC มีแผนจะเปิดให้บริการ Nano และ Pico finance ในปีหน้าซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรอการอนุมัติจาก KTB เราเชื่อว่า บริการใหม่นี้จะเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตของกำไรในระยะยาวตัวใหม่ แต่ผลในช่วงสองสามปีแรกน่าจะยังน้อยมากเพราะสินเชื่อประเภทนี้ยังน่าจะมีสัดส่วนน้อยมากอยู่เมื่อเทียบกับสินเชื่อบัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคล

นอกจากนี้ เรามองว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่สูงขึ้นก็น่าจะส่งผลต่อ KTC น้อยมากเนื่องจากหุ้นกู้ระยะยาวคิดเป็นสัดส่วนถึง 87% ของแหล่งเงินทุนของบริษัท โดยเราคาดว่าต้นทุนทางการเงินในปี 2018-2019 จะอยู่ที่ 3.0-3.2% จาก 3.0% ในปี 2017

แนะนำให้ซื้อ และคาดว่า EPS จะโตอย่างแข็งแกร่งใน FY18F เราคาดว่าจะมีการปรับเพิ่ม consensus ของประมาณการกำไรเพื่อสะท้อนคุณภาพสินทรัพย์ที่แข็งแกร่ง โดยราคาหุ้น KTC ในปัจจุบันคิดเป็น P/E ปี FY18F ที่ 15x และ P/BV ที่ 4.5x ซึ่งถือว่าน่าสนใจเมื่อดูจากแนวโน้มกำไรที่แข็งแกร่งและคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีกว่าเพื่อน ความเสี่ยงหลักได้แก่การที่ยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรชะลอตัวเกินกว่าที่คาดไว้ และคุณภาพสินทรัพย์อ่อนแอลง

โดย บล.กรุงศรี