บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง เผยว่า แนวโน้มปี 2561 ผู้บริหารมีมุมมองที่ไม่สดใสนัก โดยจะถูกกดดันจาก 1.ต้นทุนพลังงานที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะต้นทุนถ่านหิน และ ต้นทุน Naphtha 2. ธุรกิจปูนซีเมนต์ คาดจะถูกกดดันจากภาวะอุปทานส่วนเกินในภูมิภาคทำให้มีการแข่งขันสูง ในขณะที่ความต้องการปูนซีเมนต์คาดจะเติบโตเพียงเล็กน้อย 3. ธุรกิจเคมิคอลส์ กำลังการผลิตใหม่ของโลกที่เพิ่มขึ้นจะกดดันให้มีการใช้กำลังการผลิตที่ลดลง และ เราคาด สเปรดในปีนี้จะปรับลดลงเหลือ 630-650 เหรียญ/ตัน จากปีก่อน 2560 ที่มีสเปรดเฉลี่ยประมาณ 672 เหรียญ/ตัน รวมถึงได้รับผลกระทบด้านลบจากเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น 4. ธุรกิจแพคเกจจิ้ง จะถูกกดดันจากต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับเพิ่มขึ้น รวมแล้วเราประเมินกำไรในปี 2561 เท่ากับ 52, 012 ล้านบาท ติดลบ 5.5%