บล.เอเอสแอลแนะนำ “ซื้อ” BAFS พร้อมให้ราคาเป้าหมาย 52 บาท/หุ้น โดยยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2561อยู่ที่ 1.1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.8%YoY ภายใต้สมมติฐานปริมาณเติมน้ำมัน(BAFS) และปริมาณน้ำมันผ่านทอ (FPT) เพิ่มขึ้น 3%YoY และ 4%YoY ตามลําดับ แม้จะมีปัจจัยลบจาก (1) ภาระดอกเบี้ยจายที่เพิ่มขึ้นจากการลงทุนในโครงการใหม่ของ FPT และ (2) ราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่ม กดดันความต้องการใช้ภายในประเทศ แต่เศรษฐกิจในประเทศที่แข็งแกร่ง รวมไปถึงภาคการท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัว และได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวของภาครัฐ ทําให้เราเชื่อว่าสถิติสําคัญของ BAFS จะกลับมาเติบโตในอัตราที่เพิ่มขึ้น และเป็นปัจจัยหนุนการเติบโตของผลประกอบการปี 2561 ส่วนประมาณการกําไรสุทธิปี 2560 อยู่ที่ 1 พันล้านบาท หลังบริษัทรายงานสถิติปริมาณเติมน้ำมันปี 2560 เติบโต 1.6%YoY ส่วนโครงการใหม่ในอนาคตที่จะเริ่มในปี 2562 – 2563 ได้แก่ (1) โครงการท่อส่งน้ำมัน สนามบินสุวรรณภูมิ ระยะที่ 2 ของ TARCO (BAFS ถือหุน 90%) เริ่มดําเนินงานปี 2562 และ (2) โครงการท่อส่งน้ำมันภาคเหนือ (BAFS ถือหุ้น FPT ในสัดส่วน 75%) คาดว่าจะเริ่มดําเนินการผลิตเชิงพาณิชยได้ในปี 63 เป็นปัจจัยหนุนการเติบโตในระยะยาว ราคาหุ้นที่ปรับลดลงกว่า 8% ในปี 2561 เรามองเป็นจังหวะที่ดีต่อการเข้าลงทุน นอกจากนี้ยังคาดว่า BAFS จะจ่ายเงินปันผลปี 60 ที่ 1.22 บาท ต่อหุ้น โดยจ่ายปันผลระหว่างกาลไปแล้ว 0.22 บาท คงเหลือเงินปันผลสำหรับ 2H60ในอัตรา1 บาท/หุ้นอัตราผลตอบแทนอยู่ที่ 2.3 %
